จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) จับกุมนายไซซะนะ แก้วพิมพา ชาวลาว ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ก่อนขยายผลจับกุมนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ ให้การซัดทอดว่าหนึ่งในทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดนำไปไว้ที่นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง สามีของนางเอกสาว แพท ณปภา ตันตระกูล ก่อนที่นายเบนซ์จะถูกแจ้งข้อหาฟอกเงินและสมคบการฟอกเงิน กระทั่ง แพท ณปภา และมารดานายเบนซ์ เดินทางเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน บช.ปส. เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา หลังตำรวจพบเงินในบัญชีแพท ณปภา โอนมาจากเบนซ์ และต้องสงสัยว่าเป็นเงินจากการกระทำความผิด กระทั่งพนักงานสอบสวนบช.ปส.ออกหมายเรียกแพท ณปภา เข้ารับทราบข้อกล่าวหาฐานฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินในวันที่15พฤษภาคมนี้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ ผบก.ประจำบช.ปส. ในฐานะโฆษก บช.ปส. กล่าวว่า ขั้นตอนในวันที่ 15 พฤษภาคมที่เรียก แพท ณปภามาพบนั้น จะเป็นการแจ้งข้อกล่าวหา โดยดาราสาวจะรับสารภาพหรือไม่ก็เป็นสิทธิของเขา หลังจากนั้นจะพิมพ์ลายนิ้วมือประกอบสำนวน ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะพิมพ์เอกสารฝากขังที่ศาล และนำตัวแพท ณปภา ส่งศาล
ทั้งนี้ทนายความไม่ต้องยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน เนื่องจากเป็นการเรียกมาพบเพื่อแจ้งข้อหา ไม่ใช่การควบคุมตัว ให้นำหลักทรัพย์ที่เตรียมมายื่นขอประกันในชั้นฝากขังต่อศาลได้เลย โดยศาลจะให้ประกันหรือไม่นั้น อยู่ที่ดุลยพินิจของศาลต่อไป ยืนยันว่าตำรวจไม่มีเจตนากลั่นแกล้งหรือใดๆทั้งสิ้น ทั้งหมดเป็นไปตามพยานหลักฐาน จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจการทำงานของตำรวจด้วย