คุมตัว ‘ซินแสโชกุน’ ฝากขังผลัดแรก เจ้าตัวไม่สะทกสะท้าน ผู้เสียหายดักรอ ตะโกนด่ายับ

http://www.matichon.co.th/news

 

จากกรณี น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือซินแสโชกุน กรรมการบริหาร บริษัท เวลล์ เอฟเวอร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา รัชดาภิเษก ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ถูกตำรวจจับกุมได้ที่ จ.ระนอง ระหว่างหลบหนี หลังจัดทัวร์ญี่ปุ่นแบบขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำแล้วปล่อยลอยแพผู้เสียหายนับพันคน เมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา

ล่าสุด วันที่ 14 เมษายน นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความซินแสโชกุน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ติดต่อเข้าเยี่ยมซินแสโชกุน เพื่อชี้แจงสิทธิตามขั้นตอนของกฎหมายและการฝากขังในวันนี้ พร้อมกับแจ้งว่าขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราว โดยคาดว่าจะยื่นต่อศาลหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งวันนี้หากศาลรับคำร้องฝากขังจะต้องถูกส่งตัวไปควบคุมที่เรือนจำก่อน เนื่องจากทรัพย์สินถูกเจ้าหน้าที่อายัดไปแล้วบางส่วน ทำให้ทรัพย์สินที่มีอยู่ไม่เพียงพอ

ทั้งนี้ ญาติของซินแสโชกุนก็ยังถูกควบคุมตัวตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ มทบ.11 จึงยังติดต่อญาติไม่ได้ ประกอบกับรอผลสรุปของสำนวนคดีว่าจะมีการแจ้งข้อหาอื่นอีกหรือไม่ ซึ่งซินแสโชกุนก็เข้าใจ แต่มีความกังวลเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ

นายนิติศักดิ์กล่าวต่อว่า จากการพูดคุยกับซินแสโชกุนยังยืนยันว่าไม่มีเจตนาหลอก การจัดทัวร์เป็นการพาไปเที่ยวคล้ายกับโปรโมชั่นที่แถมให้สมาชิก และยินดีชดใช้เงินคืนให้กับผู้เสียหายทั้งหมดด้วย

ขณะที่ตำรวจกองปราบปรามเตรียมควบคุมตัวซินแสโชกุนเพื่อขออำนาจศาลอาญาฝากขังก่อนเที่ยงวันนี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัวในท้ายคำร้อง

จากนั้นในเวลา 09.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. กล่าวว่า ตำรวจจะคุมตัวซินแสโชกุนไปฝากขังผลัดแรกที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก ในเวลา 10.00 น. ซึ่งขณะนี้ยังแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนเพียงข้อหาเดียว พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก หากได้รับการปล่อยตัวไปเกรงว่าจะหลบหนี ประกอบกับซินแสโชกุนยังถูกยังศาลแขวงพระนครเหนือออกหมายจับในชื่อเดิมคือ น.ส.ภวิศ ภูริภัทร์เมฆินทร์ ซึ่งตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลเดียวกัน ในข้อหาฉ้อโกงกรณีหลอกลวงผู้เสียหายติดต่อนำบุตรอายุ 9 ปี ไปถ่ายแบบที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเรียกเก็บค่าดำเนินการ 2.2 แสนบาท แต่ไม่สามารถพาไปถ่ายแบบได้จริง ในพื้นที่ สน.ห้วยขวางด้วย

พล.ต.ต.สุทินกล่าวต่อว่า ขณะนี้จากการสอบสวนซินแสโชกุนยังยืนยันคำให้การเดิม แต่ตำรวจพิจารณาในส่วนพยานหลักฐานและพฤติการณ์ในคดีเป็นหลัก ส่วนผู้เสียหายที่ถูกลอยแพทัวร์ญี่ปุ่นขณะนี้เข้าแจ้งความแล้วรวม 314 คน และในวันนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.จะเข้ามาที่กองปราบปรามเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินและอายัดทรัพย์สินต่อไป

ต่อมา เวลา 10.20 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้ควบคุมตัว น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือซินแสโชกุน ออกจากห้องขังภายในกองบังคับการปราบปรามเพื่อไปขออำนาจศาลฝากขังผลัดแรกที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดย น.ส.พสิษฐ์อยู่ในสภาพยิ้มแย้ม ไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้แต่งกายด้วยเสื้อยืดโปโลสีขาว กางเกงสีฟ้า รองเท้าหุ้มข้อสีดำ และปฏิเสธที่ไม่ให้สัมภาษณ์หรือพูดคุยอะไรกับผู้สื่อข่าว ซึ่งระหว่างที่ตำรวจกองปราบปรามนำตัวซินแสโชกุนเดินไปขึ้นรถนั้นได้มีผู้เสียหายกว่า 20 คนที่ทราบข่าวว่าจะมีการนำตัวผู้ต้องหารายนี้ไปฝากขังได้มายืนตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ “เอาเงินกูคืนมา” พร้อมกับบางส่วนได้ถือป้ายมีใจความว่า “มันนี่เกมทำลายอาชีพทำลายชาติ” “เศรษฐกิจไม่ดี แต่จิตใจต้องดี” “ปลุกพลังคนดีสู้คนเลว”