นายฌอน สไปเซอร์ โฆษกประจำทำเนียบขาวเผย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเพิ่มอัตราภาษีสำหรับสินค้าที่นำเข้าจากเม็กซิโก 20% เพื่อนำมาใช้ในการสร้างกำแพงตลอดแนวชายแดนตามที่ได้มีการลงนามในคำสั่งผู้บริหารเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ประธานาธิบดีเอ็นริเก เปนญา นีเอโต ของเม็กซิโกได้ประกาศจุดยืนชัดเจนผ่านโทรทัศน์ไปทั่วประเทศว่าจะไม่จ่ายเงินเพื่อสร้างกำแพงให้กับสหรัฐ พร้อมกับระบุว่าจะยกเลิกการเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันในวันที่ 31 มกราคมนี้เพื่อพบปะกับทรัมป์ตามที่มีกำหนดไว้เดิมเมื่อวันที่ 26 มกราคม ขณะที่หลังประธานาธิบดีนีเอโตออกมาย้ำจุดยืน ทรัมป์ก็ออกมาบอกเช่นกันว่าหากเม็กซิโกไม่จ่ายเงินค่ากำแพงก็ให้ยกเลิกการเยือนสหรัฐเสีย

สไปเซอร์แถลงกับผู้สื่อข่าวหลังผู้นำเม็กซิโกประกาศยกเลิกการเยือนว่า ทรัมป์ได้หารือเรื่องการหาเงินสนับสนุนการสร้างกำแพงกับสมาชิกรัฐสภาซึ่งรวมถึงการปฏิรูประบบภาษี ทั้งนี้สไปเซอร์ชี้ว่าการเพิ่มภาษีนำเข้าจากเม็กซิโก 20% จะทำให้มีรายได้ทางภาษีเพิ่มขึ้นราว 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี แต่ออกมาระบุภายหลังว่านี่เป็นเพียงหนึ่งในทางเลือกที่มีการพูดคุยกันเท่านั้น