นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้านี้กสิกรเตรียมปรับเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยใหม่ หลังมั่นใจว่าสิ้นปีนี้ดัชนีฯ จะทะลุ 1,650 จุดอย่างแน่นอน เนื่องจากมองว่าภาพรวมตลาดหุ้นระยะยาวอยู่ในช่วงขาขึ้น จากปัจจัยโมเมนตัมเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทั้งการส่งออก การท่องเที่ยว การลงทุนภาครัฐที่จะเห็นแผนโครงการชัดขึ้นในปีหน้า แม้ว่าการบริโภคภายในประเทศยังเติบโตไม่เต็มที่เท่าไหร่นัก โดยหุ้นกลุ่มที่แนะนำในขณะนี้ ได้แก่ CP ALL ,BDMS, JWD, CK, STEC, SPALI ,BH ,TICON และหุ้นกลุ่มธนาคาร

นายกวีกล่าวว่า กระแสเงินทุนจากต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ที่จะไหลเข้ามาภายในสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท หลังจากนั้นคาดว่าจะมีฟันด์โฟลว์เข้ามาต่อเนื่องถึงช่วงกลางปีหน้าอีกประมาณ 180,000 ล้านบาท รวมกันไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท ดังนั้นฟันด์โฟลว์ที่ไหลเข้ามาคาดว่าจะใกล้เคียงกับฟันด์โฟลว์ที่ไหลออกในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์

“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฟันด์โฟลว์เข้ามามาก และส่งผลให้ตลาดหุ้นระยะยาวอยู่ในช่วงขาขึ้นคือ แรงส่งการรับรู้รายได้ในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมและกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่โดดเด่น จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐที่จะเห็นการปิดการประมูลโครงการในปีหน้าตามแผนของกระทรวงคมนาคม ความชัดเจนของการลงทุนในโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) หลังจากที่ร่างกฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อีอีซีแล้วเสร็จในปีนี้ รวมถึงแนวโน้มการส่งออกและการท่องเที่ยวที่เติบโตดี และการเมืองในประเทศนิ่ง จึงประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2561 จะขยายตัว 3.7% ส่วนประมาณการในปีนี้ยังคงเป้าที่ 3.5%” นายกวีกล่าว