สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐเดินทางถึงท่าอากาศยานกรุงโตเกียว เพื่อเริ่มต้นการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ 3 วันและเริ่มการทัวร์เอเชียต่อเนื่อง 12 วัน โดยผู้นำสหรัฐเดินทางไปยัง ฐานทัพอากาศโยโกตะ ชานกรุงโตเกียวด้านตะวันตก ทันทีเพื่อเยือนบรรดาทหารอเมริกันและญี่ปุ่นที่ฐานทัพแห่งนี้ ก่อนไปพบและร่วมออกรอบกอล์ฟ กับนายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่นและร่วมงานเลี้ยงรับรองในค่ำวันเดียวกัน

ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศต่อหน้าทหารในเครื่องแบบหลายร้อยนายที่ฐานทัพโยโกตะยืนยันว่าสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรจะไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมรามือจากการปกป้องเสรีภาพ และเตือนเกาหลีเหนือโดยไม่ระบุชื่อออกมาว่า เผด็จการหรือระบอบการปกครองใด ชาติใด ไม่ควรประเมินความมุ่งมั่นแน่วแน่ของสหรัฐอเมริกาต่ำเกินไป ที่ผ่านมาเคยมีการประเมินต่ำดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวและได้รับบทเรียนที่ไม่น่าพึงพอใจไปแล้ว ก่อนหน้านั้นเล็กน้อย ผู้นำสหรัฐกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ติดตามมาบนเครื่องบินประจำตำแหน่ง แอร์ ฟอร์ซ วัน ว่า ปัญหาเกาหลีเหนือจะเป็นประเด็นหลักในการหารือกับผู้นำชาติต่างๆระหว่างการเดินทางเยือนเอเชียครั้งนี้ และระบุด้วยว่า การชี้ขาดว่าจะบรรจุเกาหลีเหนือเข้าไว้ในรายชื่อรัฐที่มีพฤติกรรมหรือให้การสนับสนุนการก่อการร้ายจะมีขึ้นในเร็วๆนี้ พร้อมทั้งแสดงความคาดหวังว่าจะได้พบหารือกับนาย วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งทรัมป์ระบุว่าเป็นผู้ที่ตนต้องการความช่วยเหลือในเรื่องเกาหลีเหนือ ซึ่งไม่เพียงเป็นปัญหาต่อสหรัฐเท่านั้นแต่ยังเป็นปัญหาต่อโลกและตนต้องการแก้ไขปัญหานี้ให้ลุล่วงไป

ด้านนายอาเบะ กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนหน้าทรัมป์เดินทางถึงเล็กน้อยว่า ยินดีต่อการเยือนครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการเปิดโอกาสให้ความสัมพันธ์ของประเทศทั้งสองรุดหน้าลึกซึ้งมากขึ้นโดยอาศัยพื้นฐานของความเป็นมิตรและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน โดยคาดหวังว่าจะสามารถหารือกับทรัมป์อย่างถี่ถ้วนในประเด็นระหว่างประเทศทั้งหลายรวมทั้งกรณีเกาหลีเหนือ

ทั้งนี้ผู้นำสหรัฐซึ่งมีกำหนดการเยือนเกาหลีใต้เป็นลำดับถัดไป ต้องการรวบรวมความเห็นและท่าทีที่เป็นหนึ่งเดียวกันของพันธมิตรสำคัญทั้ง 2 ก่อนที่จะเดินทางต่อไปเพื่อพบหารือกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เพื่อสร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลจีนมากขึ้นในกรณีเกาหลีเหนือ