‘ชัตดาวน์ญี่ปุ่น’ ไต้ฝุ่น ฮากิบิส แรงสุดในประวัติศาสตร์ถล่มโตเกียว

‘ชัตดาวน์ญี่ปุ่น’ ไต้ฝุ่น ฮากิบิส แรงสุดในประวัติศาสตร์ถล่มโตเกียว

‘โคตรพายุ’ ไต้ฝุ่นกำลังแรงสุดๆ ‘ฮากิบิส’ (Hagibis) ซึ่งเป็นภาษาตากาล็อกของฟิลิปปินส์ หมายถึง ‘ความเร็ว’ พัดถล่มญี่ปุ่นในวันเสาร์ที่ 12 ต.ค.62 ถูกยกให้เป็นพายุไต้ฝุ่นกำลังแรงสุดที่ถล่มญี่ปุ่น ซึ่งจะก่อให้เกิดลมพายุและฝนตกหนักชนิดไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนในรอบ 60 ปี

ต่อจาก พายุไต้ฝุ่น ไอดา (Ida) หรือไต้ฝุ่นคาโนงาวะ ที่เคยถล่มญี่ปุ่นเมื่อปี 1958 จนทำให้กรุงโตเกียว เผชิญกับฝนตกหนัก วัดปริมาณน้ำฝนได้ถึง 371.9 มิลลิเมตรในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในหลายพื้นที่ คร่าชีวิตผู้ประสบภัยนับ 1,269 ราย

อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น ฮากิบิส ทำให้บ้านพังเสียหาย ต้นไม้หักโค่น เสาไฟฟ้าล้มในเขตจังหวัดชิบะ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 ต.ค.62 ก่อนตาพายุจะมาถึง

มหันตภัยจากพายุไต้ฝุ่นกำลังหวนกลับมาซ้ำรอยอีกครั้ง เมื่อสำนักอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น ประกาศแจ้งเตือนประชาชนใน 7 จังหวัด ได้แก่จังหวัด กุมมะ, ไซตามะ,โตเกียว, คานากาวา, ยามานาชิ, นากาโน, ชิสึโอกะ ระมัดระวังอันตรายขั้นสูงสุด จากอิทธิพลของไต้ฝุ่นฮากิบิส ที่อาจทำให้เกิดฝนตกหนักวัดปริมาณน้ำฝนได้สูงถึง 500 มิลลิเมตรในช่วง 24 ชั่วโมง จนก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่มตามมา

นอกจากนั้น สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นยังเตือนว่าพายุไต้ฝุ่นฮากิบิส  อาจก่อให้เกิดสตอร์มเซิร์จ คลื่นสูงซัดฝั่งรุนแรงเหมือนกับเกิดคลื่นยักษ์-สึนามิจากแผ่นดินไหว เพราะอาจเกิดคลื่นสูงถึง 10 เมตร ถล่มซัดชายฝั่งทางตะวันออกของเกาะฮอนชูเลยทีดียว

ความน่าสะพรึงกลัวของพายุไต้ฝุ่นฮากิบิส ทำให้ชาวญี่ปุ่นตื่นตระหนกเตรียมพร้อมรับมือ รีบออกไปซื้ออาหารจากร้านสะดวกซื้อมากักตุนไว้ที่บ้าน ขณะที่สายการบินต่างๆ ได้ยกเลิกเที่ยวบินทั้งภายในประเทศและต่างประเทศแล้วกว่า 2,000 เที่ยว การเดินรถไฟสายตะวันออกหยุดให้บริการ รวมทั้งรถไฟความเร็วสูง ชินกันเซ็น

ตอนนี้ ทางการญี่ปุ่นได้แนะนำประชาชนหลายล้านคนที่อาศัยอยู่ในภาคกลางและภาคตะวันออก ให้อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย เพราะอันตรายเลวร้ายที่สุดจากพายุไต้ฝุ่นฮากิบิสยังมาไม่ถึง และสำนักอุตุนิยมวิทยาคาดว่า ‘ตาพายุ’ จะขึ้นฝั่งทางตะวันออกของเกาะฮอนชู ช่วงเย็นของ 12 ตุลาคมนี้ ตามเวลาท้องถิ่น

ถนนทาเคชิตะ หนึ่งในถนนสายที่มีผู้คนพลุกพล่านมากที่สุด ในย่านฮาราจูกุ ว่างเปล่า ขณะพายุไต้ฝุ่นฮากิบิสกำลังมาถึงกรุงโตเกียว เมื่อ 12 ต.ค.62