เปิดแล้ว!รัฐบาลกดปุ่มเปิดบริการพร้อมเพย์-ตั้งรางวัลล่อ 84 ล. ดึงคนใช้ เริ่มแจกมิ.ย.นี้

http://www.matichon.co.th/news

สมคิด-อภิศักดิ์-วิรไท-ปรีดี กดปุ่มเปิดพร้อมเพย์

 

เปิดแล้ว!รัฐบาลกดปุ่มเปิดบริการพร้อมเพย์-ตั้งรางวัลล่อ84ล้านดึงคนใช้บริการเริ่มแจกครั้งแรกมิ.ย.นี้

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับอีเพย์เมนต์ว่า ในวันที่ 27 มกราคม ไทยพร้อมให้บริการโอนเงินระหว่างบุคคล ที่เรียกว่าพร้อมเพย์ หลังจากเลื่อนมาตั้งแต่ปลายปี 2559 การเริ่มใช้พร้อมเพย์เป็นจุดเริ่มต้นของสังคมดิจิทัล ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ทำให้ประชาชน ธุรกิจ เอสเอ็มอีเข้าถึงบริการทางการเงินที่มีราคาถูกลง

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า พร้อมเพย์ถือเป็นจุดเริ่มต้นของอีเพย์เมนต์ มีโครงการที่เกี่ยวข้องตามมา เช่น การติดตั้งเครื่องรับบัตร (อีดีซี) ภาษีอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงจะเปิดให้นิติบุคคลลงทะเบียนและใช้บริการโอนเงินผ่านพร้อมเพย์ในวันที่ 1 มีนาคม ทั้ง 3 โครงการ ส่วนการจ่ายสวัสดิการภาครัฐผ่านอีเพย์เมนต์นั้นเริ่มไปบางโครงการแล้วเช่นการจ่ายเงินให้เด็กแรกเกิด หลังจากนี้ตามมาอีกหลายโครงการ โดยในการประชุมครั้งนี้มีข่าวดีในเรื่องการการชำระของเงินตลาดทุนจะเหลือ T+2 จากเดิม T+3 เริ่มต้นปี 2561

นายสมชาย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในเรื่องการติดตั้งเครื่องอีดีซีนั้น มีผู้ยื่นขอเสนอมาแล้ว 2 กลุ่มคาดว่าจะเปิดซองในเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากนั้นเริ่มติดตั้งในเดือนมีนาคม 2560 มีจำนวนติดตั้ง 5.5 แสนเครื่องภายใน 1 ปี โดยกระทรวงการคลังจะสร้างแรงจูงใจให้ใช้เครื่องอีดีซีด้วยการแจกรางวัลรวม 84 ล้านบาท เดือนละ 7 ล้านบาทเป็นเวลา 12 เดือน ประชาชนที่ใช้จ่ายผ่านเครื่องอีดีซีมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลสูงสุด 1 ล้านบาท เริ่มแจกในเดือนมิถุนายน 2560 นี้

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนใช้พร้อมเพย์ 20 ล้านบัญชี แบ่งเป็นหมายเลขบัตรประชาชน 15 ล้านบัญชี และหมายเลขโทรศัพท์ 5 ล้านบัญชี และคาดว่าภายในปีนี้จะมีจำนวนผู้ลงทะเบียนถึง 30 ล้านบัญชี ซึ่ง ธปท. คาดว่าหลังจากเปิดใช้บริการพร้อมเพย์แล้ว ปริมาณธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งข้อมูล ณ สิ้นปี 2558 เฉพาะช่องทางโมบายแบงก์กิ้งมีการทำธุรกรรมรวมกว่า 264 ล้านล้านรายการ มูลค่ากว่า 3 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ ภายในไตรมาสที่ 3 จะสามารถโอนเงินจากพร้อมเพย์เข้าระบบกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์(อีวอลเลท) ขณะที่ร้านค้าจะสามารถส่งใบเสร็จรับเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ได้เพื่อจ่ายชำระค่าสินค้าและบริการ ทำให้สะดวกทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ภายในไตรมาสที่ 4

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า สมาชิกของสมาคมฯ ทั้ง 21 แห่ง พร้อมให้บริการพร้อมเพย์ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้ง เอทีเอ็ม โมบายแบงก์กิ้ง และอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง และพัฒนาระบบรองรับปริมาณธุรกรรมที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ยืนยันว่าระบบพร้อมเพย์มีความปลอดภัยสูง ทั้งนี้แต่ละธนาคารยังได้เตรียมความพร้อมบริการคอลเซนเตอร์เพื่อให้บริการลูกค้า หากมีปัญหาด้านการโอนเงินสามารถแจ้งได้ที่ธนาคารต้นทาง

รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า พร้อมเพย์จะส่งผลต่อให้รายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารพาณิชย์ปี 2560 ลดลงประมาณ 3.1-3.6 พันล้านบาท ภายใต้สมมติฐานอัตราการยอมรับนวัตกรรมของผู้ใช้บริการในปีแรกของโครงการพร้อมเพย์ที่ 60% แต่ผลบวกสุทธิทางเศรษฐกิจจากโครงการพร้อมเพย์ในระยะ 10 ปี จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.9 พันล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ รายได้ค่าธรรมเนียมจากการโอนเงินและการเรียกเก็บเงินคิดเป็นสัดส่วนราว 11.9% ของรายได้ค่าธรรมเนียม ของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ ซึ่งจำนวนนี้ 5% เป็นรายได้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการพร้อมเพย์ และเป็นสัดส่วน 2.4% ของรายได้รวมทั้งระบบธนาคารพาณิชย์ ซึ่งในกรณีพื้นฐาน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ผลกระทบต่อรายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารพาณิชย์ในปี 2560 น่าจะอยู่ที่ราว 3.1-3.6 พันล้านบาท

รายงานข่าวระบุว่า โจทย์หลักของธนาคารพาณิชย์ในระยะต่อจากนี้นั้น นอกจากจะเน้นไปที่การสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบ และกระตุ้นให้มีการทำธุรกรรมผ่านโครงการนี้ เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคและลดต้นทุนธุรกรรมให้มีความชัดเจนขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว ก็คงต้องผลักดันนวัตกรรมบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ๆ และค่าธรรมเนียมประเภทอื่นๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบในระยะแรกจากโครงการพร้อมเพย์ รวมถึงสร้างฐานรายได้ที่มั่นคง นอกจากนี้ ธนาคารแต่ละแห่งยังต้องวางแนวทางบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ อาทิ สาขา หรือ เอทีเอ็ม ที่อาจมีบทบาทลดลง รวมถึงพัฒนาทักษะความสามารถ ของพนักงานที่เกี่ยวข้องให้ตอบโจทย์ทิศทางผลิตภัณฑ์และบริการที่จะมีความซับซ้อนมากขึ้นได้ในอนาคต