https://www.matichon.co.th/news/
เมื่อเวลา 18.40 น. วันที่ 22 มิถุนายน นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงข้อซักถามขั้นตอนการพิจารณาคดีโครงรับจำนำข้าวที่ในคดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท ว่า ถ้าในวันที่21กรกฎาคม ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานนัดสุดท้ายเสร็จสิ้น หากไม่มีพยานที่จะนำไต่สวนเพิ่มเติมอีก ศาลจะกำหนดนัดให้คู่ความใช้สิทธิการแถลงปิดคดี อาจจะเป็นการแถลงด้วยวาจาหรือลายลักษณ์อักษร หากเป็นการแถลงปิดคดีด้วยลายลักษณ์อักษรจะกำหนดวันให้ยื่นเอกสารหลังจากนั้นภายใน7วันแล้วจะต้องนัดฟังคำพิพากษาตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนพิจารณาให้มีคำพิพากษาใน 7 วัน แต่ถ้ามีเหตุสมควรหรือจำเป็นศาลก็อาจจะนัดฟังคำพิพากษาได้อีก ภายใน 14 วัน รวมระยะเวลาโดยประมาณการมีคำพิพากษาในคดี จะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542 มาตรา 32 ระบุไว้ว่า เมื่อการไต่สวนพยานหลักฐานเสร็จสิ้น โจทก์และจำเลยมีสิทธิแถลงปิดคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนด แล้วให้องค์คณะผู้พิพากษามีคำพิพากษาและให้อ่านคำพิพากษาในศาลโดยเปิดเผยภายใน7วันนับแต่วันเสร็จการพิจารณา ถ้ามีเหตุสมควรจะเลื่อนการอ่านไปก่อนก็ได้ แต่ต้องไม่เกิน14วันและต้องบันทึกเหตุนั้นไว้ เว้นแต่ไม่อาจได้ตัวจำเลยมาศาลในวันอ่านคำพิพากษา