เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) เปิดเผยถึงกรณีหญิงสาวรายหนึ่งถูกแฟนทำร้ายร่างกาย โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กว่า ได้รับรายงานจาก สน.บึงกุ่ม ว่า เกิดเหตุเมื่อ 22 เมษายน เวลาประมาณ 16.30 น. นายชัยชนะ ศิริชาติ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหา ได้คบหาเป็นแฟนกับผู้เสียหาย และพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่ลุมพินีคอนโด ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร ต่อมาผู้ต้องหาทราบว่า ผู้เสียหายมีผู้ชายอื่นมาติดพันและทำตัวห่างเหิน จึงได้ใช้กำลังบังคับ ข่มขู่ ไม่ให้ออกมาจากห้องพักที่เกิดเหตุ จากนั้นผู้ต้องหาได้ใช้ไม้กวาด และไดร์นวดหน้าไฟฟ้า ฟาด ทุบ ตี ทำร้ายที่ใบหน้า ศีรษะ และตามร่างกายผู้เสียหายจำนวนหลายครั้ง โดยในขณะลงมือทำร้าย ผู้ต้องหาให้ผู้เสียหายใช้โทรศัพท์ของผู้ต้องหาถ่ายคลิปขณะถูกทำร้าย แล้วไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กของผู้ต้องหา กระทั่งพี่สาวของผู้เสียหายทราบจากการดูผ่านเฟซบุ๊คดังกล่าว จึงได้โทรศัพท์เเจ้งผ่านสายด่วน 191 ไปทาง สน.บึงกุ่ม หลังจากรับเเจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บึงกุ่ม ได้รีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมกับจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัว และตรวจยึดของกลางโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายคลิป แล้วนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้เสียหายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล (รพ.) นพรัตนราชธานี

รองโฆษก ตร.กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ปรากฎเป็นภาพของผู้อื่น โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียงหรือได้รับความเสียหาย และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

รอง โฆษก ตร. กล่าวว่า คดีนี้เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เป็นการใช้ความรุนแรงต่อเพศตรงข้าม และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับประชาชน นอกจากจะมีความผิดตามมูลฐานความผิดข้างต้นเเล้ว การนำคลิปที่มีการทำร้ายร่างกายไปเผยแพร่ พร้อมข้อความหยาบคาย เป็นการใส่ความที่น่าจะเกิดความเสียหาย ยังอาจจะมีความผิด ป.อาญา มาตรา 326 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท และเป็นการหมิ่นด้วยการโฆษณาเข้าสู่ระบบโซเชียลมีเดีย มาตรา 328 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“ในกรณีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งแล้ว ได้เร่งดำเนินการสืบสวนจนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับช่วยเหลือเหยื่อผู้ได้รับบาดเจ็บได้ทันท่วงที เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ในการใช้ช่องทางสายด่วน 191 เเจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าคลี่คลายสถานการณ์ ฝากขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ใช้สื่อโซเชียลมีเดียช่วยกันเป็นหูเป็นตา และแจ้งข้อมูลข่าวสารให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ” รองโฆษก ตร.กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 22 เมษายน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ฐานะโฆษก ตร. เดินทางไปติดตามคดีพร้อมสอบปากคำนายชัยชนะ ด้วยตนเอง ที่ สน.บึงกุ่ม

ทั้งนี้ พล.ต.อ.วิระชัย เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถสอบปากคำนายชัยชนะได้ เนื่องจากผลตรวจสารเสพติดในร่างกายพบว่ามีสารแอมเฟตามิน หรือยาบ้าในร่างกาย และผู้ต้องหายังอยู่ในอาการเมายาบ้า พูดจาไม่รู้เรื่องได้แต่ร้องไห้ จึงต้องรอให้ฤทธิ์ยาหมดเสียก่อน รวมถึงการสอบปากคำผู้บาดเจ็บที่พักรักษาตัวอยู่ที่รพ.นพรัตน์ราชธานี ก็ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากแพทย์อยู่ระหว่างรอดูอาการ คาดว่าในวันที่ 23 เมษายนนี้แพทย์จึงจะสามารถระบุได้ว่า มีอาการบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายชัยชนะ ไว้ 4 ข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ กักขังหน่วงเหนี่ยว นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ทำให้ปรากฎภาพผู้อื่นอันจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงหรืออับอาย และ เสพยาเสพติดประเภท1 (ยาบ้า) จากการตรวจสอบประวัตินายชัยชนะนั้น ยังเคยต้องโทษในคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในท้องที่สน.บึงกุ่ม เมื่อปี 2548 ด้วย