ลุยแล้ว! สหรัฐ-อังกฤษ-ฝรั่งเศส รัวโทมาฮอว์กถล่มแหล่งผลิตอาวุธเคมีในซีเรีย

https://www.matichon.co.th/news/

จรวดพุ่งผ่านท้องฟ้าเหนือกรุงดามัสกัสของซีเรีย / AP

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ แถลงต่อประชาชนประกาศอนุมัติแผนปฏิบัติการทางทหารเพื่อโจมตีแหล่งผลิตอาวุธเคมีในซีเรียแล้ว เพื่อตอบโต้การโจมตีพลเรือนด้วยอาวุธเคมีของซีเรียที่เมืองดูมา เมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา

“ปฏิบัติการทางทหารร่วมระหว่างสหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศส กำลังเกิดขึ้น โดยเป้าหมายหลักทั้งหมดล้วนแต่มีส่วนเกี่ยวข้อกงับการผลิตอาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรีย เราได้เตรียมพร้อมที่จะตอบโต้จนกว่าซีเรียจะยุติการใช้อาวุธเคมีต้องห้ามเหล่านี้”ทรัมป์ระบุ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศการโจมตีซีเรีย / AFP

ด้านนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยืนยันว่า อังกฤษได้เข้าร่วมในปฏิบัติการทางทหารกับสหรัฐเพราะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการใช้กำลังเข้าจัดการ แต่การดำเนินการดังกล่าวไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองในซีเรีย ขณะที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ก็ยืนยันข่าวการเข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารของฝรั่งเศสเช่นกัน

ปฏิบัติการทางทหารร่วมในซีเรียเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 14 เมษายน โดยสหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศส ได้ร่วมกันทิ้งระเบิดใส่เป้าหมายทางรัฐบาลซึ่งเชื่อว่าเป็นสถานที่ผลิตอาวุธเคมีในซีเรียหลายจุด

กระทรวงกลาโหมสหรัฐเผยว่า เป้าหมายของปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ประกอบด้วย ฐานทัพและศูนย์วิจัยด้านเคมีใกล้กรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย ฐานทัพทางตะวันตกของเมืองฮอมส์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่เก็บสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตอาวุธเคมีของซีเรีย และสถานที่เก็บอาวุธเคมีรวมถึงจุดสั่งการที่สำคัญของกองทัพซีเรียใกล้กับเมืองฮอมส์

แสงสีส้มจากระเบิดสุกสว่างเหนือท้องฟ้าใกล้กรุงดามัสกัสของซีเรีย / AFP

นายเจมส์ แมททิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า ยังไม่มีรายงานความสูญเสียใดๆ จากปฏิบัติการครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นปฏิบัติการต่อเนื่องเพียงครั้งเดียว ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการส่งสารที่ชัดเจนและหนักแน่นเพียงพอ โดยขณะนี้ปฏิบัติการโจมตี 5 ระลอกได้ยุติลงแล้ว

สหรัฐได้ใช้จรวดโทมาฮอว์กโจมตีฐานที่มั่นหลายแห่งในซีเรีย โดยมีการยิงจรวดทั้งจากเรือรบและเครื่องบินถล่มแหล่งผลิตอาวุธเคมี 3 แห่งใหญ่ของซีเรียกว่า 100 นัด อย่างไรก็ดีแพนตากอนยังไม่ยืนยันว่าจรวดทั้งหมดถูกเป้าหมายเท่าไหร่ แต่มีรายงานว่าได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นอย่างน้อย 6 ครั้งในกรุงดามัสกัส

ด้านสื่อของซีเรียรายงานว่า ทางการซีเรียได้เคลื่อนระบบป้องกันภัยทางอากาศออกมารับมือกับการโจมตีแล้ว โดยกองกำลังรัฐบาลสามารถยิงทำลายขีปนาวุธหลายสิบลูก พร้อมกับยืนยันข่าวว่ามีการโจมตีพื้นที่ในกรุงดามัสกัสด้วย

ทั้งนี้รัฐบาลซีเรียปฏิเสธตลอดมาว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังการโจมตีพลเรือนด้วยอาวุธเคมีครั้งล่าสุดตามที่ชาติตะวันตกกล่าวหา ขณะที่รัสเซีย พันธมิตรหลักของซีเรียออกมาเตือนว่าปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียของชาติตะวันตกเสี่ยงที่จะกลายเป็นชนวนของสงคราม

ล่าสุดนายอนาโตลี อันโตนอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์ระบุว่า ความหวั่นวิตกอันเลวร้ายได้กลายเป็นจริงแล้ว คำเตือนของเราไม่มีใครได้ยิน การโจมตีดังกล่าวเป็นสิ่งที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า ถือเป็นอีกครั้งที่เรากำลังถูกคุกคาม เราขอเตือนว่าการกระทำดังกล่าวจะไม่ถูกปล่อยผ่านไปโดยไม่มีผลที่ตามมา ความรับผิดชอบทั้งหมดต้องตกอยู่กับสหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศส การดูหมิ่นประธานาธิบดีรัสเซียเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ สหรัฐเป็นชาติที่ครอบครองคลังแสงอาวุธเคมีที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงไม่มีความชอบธรรมใดๆ ที่จะกล่าวโทษประเทศอื่น