ลูกสาว ผอ. สุวรรณภูมิ ลั่นปมแค้นพ่อลาออก โดนรัฐบาลแย่งหน้ากากฯ ด่ารัฐบาลส้นตีx

ลูกสาว ผอ. สุวรรณภูมิ ลั่นปมแค้นพ่อลาออก โดนรัฐบาลแย่งหน้ากากฯ ด่ารัฐบาลส้นตีx

https://covid-19.kapook.com/

     ลูกสาว  ผอ. สุวรรณภูมิ เดือดแทนพ่อ ยืนยันพ่อจะลาออกจริง ขอความร่วมมืออะไรก็ไม่ได้ เจ้าหน้าที่สนามบิน ด่านแรกที่ต้องเสี่ยงกับคนติดเชื้อ กลับไม่ได้รับหน้ากากอนามัย เพราะโดนรัฐบาลแย่งไปหมด พร้อมด่าอย่างแสบทิ้งท้ายว่า รัฐบาลส้นตีx

วันที่ 13 มีนาคม 2563 จากกรณีที่ น.ท. สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ  ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง โดยระบุว่า เพื่อแสดงความรับผิดชอบที่บริหารจัดการศูนย์ EOC ไม่ดี จนมีผีน้อยหลุดออกไปจากการคัดกรอง COVID-19  

ล่าสุด เฟซบุ๊ก Nittikarn Suwanawat หรือ อีฟ ลูกสาวของ น.ท. สุธีรวัฒน์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก อธิบายถึงปัญหาเบื้องลึกที่เกิดขึ้น โดยเธอยืนยันว่า ปกติเธอไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเท่าใด แต่ครั้งนี้ไม่ไหวจริง ๆ

ทั้งนี้ คุณอีฟ ยืนยันว่า คุณพ่อของเธอจะลาออกจริง และเรื่องที่ไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ นั้น เป็นเรื่องจริง เมื่อมีหน่วยงานอื่นมาขอความร่วมมือ การท่าฯ ก็ปฏิบัติตามทุกอย่าง แต่เมื่อการท่าฯ จะขอความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นบ้าง เช่น เรื่องการกักตัวผีน้อย กลับบอกว่า ไม่มีหน้าที่กักคนไทย เพราะกฎหมายไม่ได้ระบุไว้ จนอยากจะด่าว่า “อห.” ที่ไม่ได้แปลว่า “โอ้โห”

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องหน้ากากอนามัยที่ต้องแจกให้พนักงาน การท่าฯ ทำเรื่องขอซื้อ แต่กลับถูกรัฐบาลแย่งไป ถ้าจะเอาไปให้หมอหรือพยาบาลก็จะไม่ว่า แต่นี่เอาไป….(คิดเอาเอง)


ภาพจาก Photo APS / Shutterstock.com

              นอกจากนี้ยังมีหลาย ๆ เรื่องที่คับข้องใจ พร้อมกับทิ้งท้ายคำพูดของคุณพ่อของเธอว่า

“ในเมื่อทุกคนไม่ได้มีแนวคิดว่า ขณะนี้เรามีวิกฤตของประเทศ ถ้าข้าราชการทุกหน่วยที่ต้องมีหน้าที่ตามกฎหมาย ต่างคนต่างตั้งคอก ไม่คิดจับมือประสานงาน ไม่สามัคคี ต่างหน่วยต่างเกี่ยงให้ สธ. ต้องรับผิดชอบ และเผอิญคนที่ สธ. ส่งมา ไม่มีบุคลิกความเป็นผู้นำ เหตุการณ์เลยร้ายแรงกว่าที่ท่านทราบกันครับ”

และมีการทิ้งท้ายว่า “สรุปได้สั้นๆ เหตุเกิดมาจาก #รัฐบาลส้นตี_”

ต่อมา คุณอีฟได้ออกมาพูดในอีกโพสต์ว่า ยอมรับว่าสิ่งที่โพสต์ไป เขียนไปด้วยอารมณ์ เธอไม่ต้องการให้คนแตกแยกกัน แต่ต้องการตีแผ่ความจริงเท่านั้น ต้นตอของเรื่องนี้คือ ถ้าทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ คิดเพื่อประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว สามัคคีกัน ปัญหาก็จะไม่เกิด แต่ที่ต้องออกมาพูด เพราะต้องการปกป้องคนทำงาน คนที่ทุ่มเทจริง ๆ และปกป้องคุณพ่อ เธอก็เป็นแค่นักศึกษาวิทยาศาสตร์เท่านั้น ไม่ได้มีความรู้ในเรื่องการเมืองหรืออื่น ๆ และไม่ได้สนใจเรื่องการเมืองมากนัก เธออาจจะพูดไม่เก่งหรือสื่อความหมายไม่ดี ก็ต้องขออภัยด้วย