‘จุฬาราชมนตรี’ ยกอัลกุรอาน ‘ห้ามวิจารณ์ศาสนาอื่น’ เตือนอดีตนักร้องดัง หวั่นทำแตกแยก

https://www.matichon.co.th/news/

จากกรณี นายวีรชน ศรัทธายิ่ง หรือ “โต” อดีตนักร้องนำวง “ซิลลี่ฟูล” ได้จัดรายการกับพิธีกรคู่หู โดยพูดคุยกันในประเด็นที่ว่า “ทำไมอิสลามถึงไม่มีรูปปั้น เหมือนชาวพุทธไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ” ซึ่งตอนหนึ่งอดีตนักร้องดัง พูดว่า “ในฐานะผู้ศรัทธา ผมจะไม่กราบสิ่งใดที่ต่ำเท่าผม หรือต่ำกว่าผม รูปปั้นเนี่ยผลักก็ตกแตกละ มันต่ำกว่าผมแล้ว มันไม่มีชีวิต จะไหว้ทำไมสิ่งไม่มีชีวิต รูปร่างอัปลักษณ์กว่าผม ปั้นให้ตายก็หล่อสู้ผมไม่ได้” ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างแพร่หลาย

ต่อมา แฟนเพจเฟสบุ๊ก สำนักจุฬาราชมนตรี ได้ออกคลิป “คำชี้แจงจุฬาราชมนตรีต่อกรณีการบริภาษความเชื่อคนต่างศาสนิก” ซึ่งเป็นคลิปวีดีโอของนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี โดยระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า มีเรื่องไม่ค่อยสบายใจเนื่องจากว่ามีผู้ที่ตั้งตัวเป็นผู้รู้ศาสนานั้นไปพูดในเชิงวิพากษ์ศาสนาอื่น ไม่สบายใจว่าทำไมอิสลามถึงกล่าวร้ายอย่างนั้นหรือ แต่ความจริงอิสลามห้ามการบริภาษ หรือการวิจารณ์คนศาสนาอื่น หรือผู้ที่นับถือศาสนาอื่น ซึ่งปรากฏในคัมภีร์อัลกุรอานว่า “สูเจ้าอย่าได้วิพากษ์กลุ่มคนที่เรียกร้องสิ่งอื่นนอกจากอัลเลาะฮ์ เพราะเขาจะกลับมาบริภาษอัลเลาะฮ์” ดังนั้น เราอยากจะขอเตือน ขอฝากกับผู้รู้ หรือผู้ที่ทำตัวเป็นผู้รู้ศาสนา นักบรรยายนักเผยแพร่นั้นให้ระมัดระวังในสิ่งเหล่านี้เพราะอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งทางสังคม ที่สำคัญเป็นวิธีการที่ขัดแย้งกับคำสอนในอัลกรุอาน ที่ห้ามบริภาษหรือวิจารณ์ศาสนาอื่น

“การเผยแพร่อิสลามในสังคมไทยนั้น ควรจะต้องกระทำด้วยความระมัดระวังและเคารพ และให้เกียรติคนอื่น จึงขอทำความเข้าใจกับพี่น้องโดยทั่วไปว่า สิ่งที่เกิดขึ้นและสิ่งที่บางคนทำไปนั้นไม่ใช่หลักคำสอนของอิสลาม แต่เป็นหลักปฏิบัติที่ฝ่าฝืนคำสอนของอิสลาม เพราะฉะนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ก็ขอฝากเพื่อนนักวิชาการที่พูดผ่านทางสื่อต่างๆในขณะนี้ จงระมัดระวัง จงปฏิบัติตนให้เป็นตามหลักคำสอนอัลกุรอาน เพราะคำพูดของท่านไม่กี่ประโยคนั้น อาจจะนำไปสู่ความสูญเสียแก่อิสลามและมุสลิมในประเทศไทย จะนำไปสู่ความแตกแยก อิสลามห้ามไม่ให้บริภาษหรือวิจารณ์ศาสนาอื่น ในอิสลามอัลกรุอ่านก็สอนอยู่แล้ว การเผยแพร่ศาสนาอิสลามในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างสังคมไทยนั้น จะต้องมีความรอบคอบ สุขุม และมีความเคารพต่อคนอื่นและศาสนาอื่น

“ผมคิดว่าคงจะเป็นข้อเสนอและคำแนะนำและคำเตือนที่คงจะเป็นประโยชน์แก่ท่านทั้งหลาย หรือนักพูดนักบรรยายทั้งหลายต้องเก็บไปคิด เดินไปสู่แนวทางที่อิสลามสอนคือต้องเชิญชวนด้วยวิทยปัญญา และบทเรียนคำสอนอันดีงาม ไม่ใช่ไปบริภาษ ไม่ใช่ไปกล่าวร้าย อันอาจจะนำไปสู่ความแตกแยกอย่างใหญ่หลวงทางสังคม จึงขอให้ตระหนักถึงความสำคัญ และความร้ายแรงของเรื่องนี้ด้วย” จุฬาราชมนตรี ระบุ