รัฐมนตรีเศรษฐกิจกลุ่มแม่โขง-ล้านช้าง หนุนมูลค่าการค้าพุ่ง 2.5 แสนล.เหรียญ

https://www.matichon.co.th/news/

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในโอกาสที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้นำแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation: MLC) ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2561 ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ไทยได้ร่วมกับประเทศสมาชิก MLC อีก 5 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และจีน ออกแถลงการณ์ร่วมระหว่างรัฐมนตรีเศรษฐกิจประเทศสมาชิก MLC ในระหว่างการประชุมผู้นำ MLC เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจ เพื่อความกินดีอยู่ดีของประชาชน และให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน โดยข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ของจีนจะมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่างสมาชิก MLC

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ปฏิญญาพนมเปญ (Phnom Penh Declaration) ที่ผู้นำ MLC 6 ประเทศ ได้ประกาศที่กรุงพนมเปญ ระบุว่าผู้นำแสดงความยินดีกับการออกแถลงการณ์ร่วมระดับรัฐมนตรีเศรษฐกิจ MLC ซึ่งแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ มีสาระสำคัญ 7 ประเด็น ได้แก่ 1. สมาชิก MLC พร้อมส่งเสริมการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจและการค้าร่วมกัน โดยให้ความสำคัญกับการดำเนินแผนนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจของสมาชิก เช่น แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ของไทย แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม 5 ปี ฉบับที่ 13 ของจีน เป็นต้น และจะร่วมจัดทำแผนพัฒนาความร่วมมือเศรษฐกิจข้ามพรมแดนระหว่างประเทศสมาชิกแม่โขง – ล้านช้าง ระยะ 5 ปี

2. ส่งเสริมการค้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการค้า 250 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2563 (จากประมาณ 190 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปัจจุบัน) 3. ยกระดับการอำนวยความสะดวกทางการค้า 4. ส่งเสริมความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แก่ธุรกิจขนาดไมโคร ขนาดกลาง และขนาดย่อม (MSMEs) 5. ส่งเสริมความร่วมมือด้านการลงทุน 6. ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน  และ 7.ส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ทั้งนี้ แถลงการณ์ร่วมระดับรัฐมนตรีเศรษฐกิจ MLC ข้างต้น จะเป็นการต่อยอดความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน อย่างรอบด้าน ตามนโยบายของรัฐบาลที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจไทยกับข้อริเริ่มแถบหนึ่งหนึ่งเส้นทางของจีน และการดำเนินยุทธศาสตร์ CLMVT ของกระทรวงพาณิชย์

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังได้มีมติ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2561 เห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วม (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง – ล้านช้าง ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อรับจัดสรรเงิน 1,701,800 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 59,500,000 บาท จากกองทุนพิเศษแม่โขง – ล้านช้าง มาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจกับสมาชิก MLC จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษข้ามพรมแดน 2. โครงการพัฒนาการอำนวยความสะดวกแนวชายแดนเพื่อพัฒนาการค้าและระบบโลจิสติกส์ 3. การจัดกิจกรรมเวทีภาคธุรกิจแม่โขง – ล้านช้าง และ 4.การพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในเขตชนบท

นอกจากนี้ ได้เห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วม (MOU) กับสถาบันความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง (Mekong Institute: MI) เพื่อร่วมขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวต่อไป โดยกระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นผู้บริหารโครงการร่วมกับ MI โดยประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการเป็นผู้บริหารโครงการเหล่านี้ คือ ผู้ประกอบการและนักธุรกิจของไทยจะได้รับโอกาสในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่โครงการจัดขึ้น เช่น การจับคู่ทางธุรกิจ การจัดฝึกอบรมสัมมนาในเรื่องการอำนวยความสะดวกแนวชายแดน การพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งการพัฒนาเครือข่ายผู้ประกอบการในอนุภูมิภาค เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่มูลค่าระหว่างประเทศสมาชิก เป็นต้น จีนได้จัดตั้งกองทุนพิเศษแม่โขง – ล้านช้างขึ้นในการประชุมผู้นำ MLC ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนมีนาคม 2559 โดยมีมูลค่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี โดยโครงการที่ได้รับการจัดสรรเงินจากจีนแล้วมี 132 โครงการ เป็นด้านเศรษฐกิจของไทย 4 โครงการ

ทั้งนี้ ไทยมีมูลค่าการค้ากับประเทศสมาชิก MLC 5 ประเทศ รวม 94,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของมูลค่าการค้าไทยกับโลก และสมาชิก MLC มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยประมาณ 7% ต่อปี MLC จึงเป็นอนุภูมิภาคที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงและน่าจับตามองอย่างยิ่ง