ทารกตัวน้อยสร้างประวัติศาสตร์ เกิดจากตัวอ่อนที่ถูกแช่แข็งไว้นานกว่า 24 ปี !

https://hilight.kapook.com/

          พ่อแม่ชาวอเมริกันสุดปลาบปลื้ม หลังลูกสาวตัวน้อยลืมตาดูโลก โดยเธอเกิดจากตัวอ่อนที่ถูกแช่แข็งไว้นานถึง 24 ปี ! สร้างสถิติใหม่ให้กับวงการแพทย์ไปเรียบร้อยแล้ว

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2560 เว็บไซต์ซีบีเอสบัลติมอร์ รายงานว่า เบนจามิน และ ทีนา กิ๊บสัน คู่สามีภรรยาชาวเมืองน็อกซ์วิลล์ รัฐเทนเนสซี สหรัฐฯ ต่างก็ปลาบปลื้มยินดีเป็นอย่างมาก หลังจากที่ เอ็มมา เร็น กิ๊บสัน ลูกสาวตัวน้อยของพวกเขาลืมตาดูโลก หนูน้อยเอ็มมาคือแก้วตาดวงใจและปาฏิหาริย์ยิ่งใหญ่ของพ่อและแม่ เธอไม่ใช่เด็กทารกที่ปฏิสนธิโดยวิธีธรรมชาติ แต่เกิดจากวิธีการนำตัวอ่อนแช่แข็งมาฝังในมดลูกของแม่ ซึ่งเธอได้สร้างสถิติใหม่ให้กับวงการแพทย์ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะตัวอ่อนที่กลายมาเป็นเอ็มมานั้น ถูกแช่แข็งเก็บไว้นานกว่า 24 ปี !

ก่อนหน้าที่เอ็มมาจะเกิดนั้น เบนจามินและทีนาพยายามมีลูกด้วยกันมานานหลายปี ด้วยความที่ทั้งคู่มีภาวะมีบุตรยาก ความหวังจะได้มีลูกสักคนจึงเป็นอะไรที่ยากเย็นและท้าทายมาก พวกเขาถึงขั้นอยากล้มเลิกทุกอย่าง และได้รับเด็กมาอุปการะ จนกระทั่งพวกเขาได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ National Embryo Donation Center ศูนย์การแพทย์ที่ช่วยให้คู่รักมากมายประสบความสำเร็จในการมีลูก โดยวิธีการย้ายตัวอ่อนแช่แข็ง (Frozen Embryo) เข้าสู่มดลูกของหญิงผู้รับบริจาค ซึ่งมีอัตราความสำเร็จสูงมาก เฉพาะที่ศูนย์การแพทย์แห่งนี้ มีเด็กที่เกิดด้วยวิธีดังกล่าวมากถึงเกือบ 700 คน

ตัวอ่อนในที่นี้คือไข่และอสุจิของผู้บริจาค ที่ผ่านการผสมเรียบร้อยแล้ว และแช่แข็งเก็บเอาไว้ สำหรับตัวอ่อนที่มาเป็นหนูน้อยเอ็มมานั้น มีอายุมากกว่าคนอื่น ๆ เนื่องจากเป็นตัวอ่อนที่ถูกแช่แข็งไว้ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2535 ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว ช่วงเวลานั้นทีนาก็เพิ่งจะมีอายุแค่ 1 ขวบกว่า ๆ เท่านั้น แน่นอนว่าเคสของครอบครัวกิ๊บสันประสบความสำเร็จ โดยเอ็มมาลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สุขภาพร่างกายแข็งแรงทุกประการ

“ตัวอ่อนนั้นถูกเก็บรักษาโดยกระบวนการ Cryo-Preservation โดยตัวอ่อนที่ผ่านการปฏิสนธิในระยะแรก (Pronuclear Stage) จะผ่านการแช่แข็งอย่างช้า ๆ อัตราการรอดชีวิตของตัวอ่อนคือ 100 เปอร์เซ็นต์ และสามารถไปสู่กระบวนการปฏิสนธิขั้นที่ 3 ได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน และการที่เห็นตัวอ่อนที่แช่แข็งมานาน 24 ปีครึ่ง ได้ถือกำเนิด มันคือเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก” แครอล ซอมเมอร์เฟลท์ ผู้อำนวยการห้องแล็บ ของ National Embryo Donation Center กล่าว

“เอ็มมาคือปาฏิหาริย์ของพวกเราครับ ผมคิดว่าเธอดูสมบูรณ์แบบมากเลยครับ ถึงแม้ว่าจะถูกแช่แข็งมาเป็นเวลานานมากก็ตาม” เบนจามิน กล่าว

ด้าน ดร.เจฟฟรีย์ คีแนน ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์ National Embryo Donation Center กล่าวว่า การมีลูกคือความฝันของครอบครัวกิ๊บสัน และศูนย์การแพทย์แห่งนี้ก็ยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้ช่วยทำให้ความฝันนั้นกลายเป็นความจริงขึ้นมา และเขาก็หวังว่า คู่รักคู่อื่น ๆ จะได้ความหวังและแรงบันดาลใจจากครอบครัวนี้

ภาพจาก National Embryo Donation Center

ข้อมูลจาก dailymail