สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวถึงปัญหาเกาหลีเหนือในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอสซี) ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ด้วยท่าทีที่แข็งกร้าวขึ้นว่า เกาหลีเหนือจะต้องหาทางกลับสู่โต๊ะเจรจา โดยเกาหลีเหนือจะต้องยุติการทดสอบอาวุธเป็นการถาวรก่อนที่จะการเจรจาใดๆระหว่างกันจะเริ่มขึ้น อย่างไรก็ดีนายทิลเลอร์สันกล่าวย้ำว่าสหรัฐไม่ได้แสวงหาหรือต้องการที่จะทำสงครามกับเกาหลีเหนือ แต่สหรัฐจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องตนเอง ขณะเดียวกันช่องทางในการสื่อสารกับเกาหลีเหนือยังคงเปิดอยู่

นับเป็นการเปลี่ยนท่าทีที่แข็งกร้าวมากขึ้นของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ หลังจากเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นายทิลเลอร์สันกล่าวว่าสหรัฐพร้อมจะเจรจากับเกาหลีเหนือทุกเมื่อโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ ซึ่งเป็นท่าทีที่ขัดแย้งกับทำเนียบขาวสหรัฐที่ออกมาแถลงในภายหลัง โดยยืนยันว่าสหรัฐยังคงนโยบายเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ท่าทีที่สวนทางกันนี้ทำให้ถูกมองว่าอาจมีรอยร้าวขัดแย้งกันเกิดขึ้นะหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กับนายทิลเลอร์สัน

ด้านนายจา ซง นัม ทูตเกาหลีเหนือประจำยูเอ็น กล่าวในที่ประชุมยูเอ็นเอสซี โดยโจมตีสหรัฐว่าหวาดกลัวอำนาจที่ทรงพลังของเกาหลีเหนือ พร้อมกับย้ำทัศนะของเกาหลีเหนือว่าอาวุธนิวเคลียร์เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องมีไว้เพื่อป้องกันตนเอง

ขณะที่นายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการยูเอ็น กล่าวต่อที่ประชุม โดยเสนอตัวเป็นตัวกลางในการช่วยหาทางที่จะฟื้นการเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือกับชาติมหาอำนาจโลกกลับคืนมา พร้อมชี้ว่าการทูตยังคงเป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืนและการปลอดจากนิวเคลียร์