จากกรณีที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ควบคุมตัวนายมุสตาซีดีน วาบา หรือแบมุส ครูสอนศาสนาโรงเรียนดรุณศาสตร์ จากมีภาพออกไปว่าถูกเจ้าหน้าที่หิ้วปีกแล้วยังไม่กลับบ้าน โดยมีการตั้งคำถามว่าจะเหมือนคดีที่สะบ้าย้อย ซึ่งมีชายหายตัวไปเหมือนถูกเจ้าหน้าที่จับกุม แต่ปรากฏว่าได้เดินทางไปเที่ยวกับผู้หญิงอักคนหนึ่งที่ไม่ใช่ภรรยา

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า นายมุสตาซีดีน วาบา ปลอดภัยตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.ที่มีการปะทะกันแล้ว คาดว่าคงมีคนพาออกไปจากจุดที่ชุลมุน เพียงแต่เขาไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนจึงหากันไม่เจอ แต่ได้สอบถามภายหลังและทราบกันตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 27 พ.ย.แล้วว่าปลอดภัย

เมื่อถามถึงการตั้งคำถามของ พล.ท.สรรเสริญ นางอังคณากล่าวว่า ที่คุณไก่อูพูดเหมือนเป็นการลดทอนความน่าเชื่อถือของคุณมุสตาซีดีน วาบา การใช้คำพูดว่าไปกับผู้หญิงคนอื่นไหม อยากให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้ามีคนไปถามคุณไก่อูว่าไปกับผู้หญิงที่ไม่ใช่ภรรยาหรือเปล่า จะกระทบไปถึงครอบครัวและลูกๆ ของเขาด้วย อีกประการหนึ่ง คำพูดลักษณะนี้เป็นการเหยียดเพศ ถ้าหากว่ามีคำถามว่าเขาหายไปไหน ทางรัฐบาลก็แค่ตอบว่าเขาอยู่ที่ไหนก็จบแล้ว ไม่ควรใช้เรื่องเพศมาลดทอนความน่าเชื่อถือ

“กรณีการปะทะกันของกลุ่มค้านโรงไฟฟ้าเทพา เมื่อวาน กสม.ออกแถลงการณ์แล้วว่าตำรวจต้องทบทวนเพื่อที่จะไม่แจ้งข้อกล่าวหาและปล่อยแกนนำทั้งหมด เพราะคนเหล่านี้แค่อยากมาพบท่านนายกรัฐมนตรี และตอนนี้ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลสาธารณะ ใครๆ ก็สามารถพบได้ แต่ถ้าท่านไม่สะดวกก็แจ้งว่าจะให้ใครมาพบแทน การที่ตำรวจใช้คำว่าผู้ชุมนุมทำร้าย แต่ก็มีข้อมูลว่าผู้ชุมนุมบางคนก็บาดเจ็บเช่นกัน เพราะฉะนั้นตรงนี้เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความอดทนอดกลั้นให้มาก ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ รู้สึกเป็นห่วง หวังว่าจะมีการทบทวนและปล่อยแกนนำทั้งหมด เห็นว่าเงินประกันสูงมาก อยากให้เข้าใจว่าชาวบ้านธรรมดาจะหาเงินมาจากไหนในเวลาสั้นๆ และทุกวันนี้เรารณรงค์กันอย่างมากที่จะไม่ให้ใครต้องติดคุกจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ฉะนั้นการจะปล่อยตัวเขาโดยไม่มีเงื่อนไขน่าจะเป็นทางออกที่ดี” นางอังคณากล่าว