‘พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี’ อดีต ผบ.ทบ. ถึงแก่ ‘อนิจกรรม’

http://www.matichon.co.th/news

ภาพจากเฟซบุ๊ก wassana nanuam
ภาพจากเฟซบุ๊ก wassana nanuam

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ระบุว่า พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบเมื่อเวลา 12.00 น. ด้วยอายุ 84 ปี ด้วยโรคประจำตัว ภายหลังเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมาระยะหนึ่ง

ด้าน พ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รองผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) กล่าวว่า พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) บิดาของตน เสียชีวิตลงอย่างสงบที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โดยญาติเตรียมพิธีรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพที่ศาลา 9 วัดโสมนัสวิหารราชวรวิหาร ในช่วงเย็นวันที่ 22 กุมภาพันธ์

ทั้งนี้ พล.อ.อิสระพงศ์ หรือ “บิ๊กตุ๋ย” เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2476 เป็นบุตรชายของ พล.ต.ท.ฉัตร หนุนภักดี อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธร และนางประยง หนุนภักดี จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนอำนวยศิลป์, โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 5 (จปร.5), หลักสูตรทหารร่มและการรบพิเศษ รุ่นที่ 12, โรงเรียนเสนาธิการทหารบกและวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 29 รับราชการครั้งแรกในปี พ.ศ.2501 ในตำแหน่งผู้บังคับหมวดปืนเล็ก กองพันที่ 3 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ จากนั้นได้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่เป็นลำดับ จนได้รับแต่งตั้งเป็นรองผู้ช่วยทูตทหารบก ประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ในปี พ.ศ.2515, ผู้บังคับกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ในปี พ.ศ.2522, ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ พ.ศ.2527, แม่ทัพภาคที่ 2 ในปี พ.ศ.2529, รองผู้บัญชาการทหารบก ในปี พ.ศ.2533, ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกระหว่างวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2535-31 กรกฎาคม พ.ศ.2535 และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี

ในการรัฐประหาร พ.ศ.2534 พล.อ.อิสระพงศ์นับเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีบทบาทสำคัญ ด้วยการเป็นรองผู้บัญชาการทหารบก และมีตำแหน่งเป็นเลขาธิการคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) อันมี พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานด้วย จากนั้นจึงได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกต่อจาก พล.อ.สุจินดา คราประยูร ที่ได้รับโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงถูกมองว่าทั้งหมดนี้เป็นการสืบทอดอำนาจของคณะ รสช. เนื่องจากความสัมพันธ์ส่วนตัวของ พล.อ.อิสระพงศ์ กับ พล.อ.สุจินดา ถือว่าสนิทสนมกันมาก เพราะเป็นนายทหารที่จบการศึกษาในรุ่นเดียวกัน อีกทั้งคุณหญิงวรรณี คราประยูร ภริยาของ พล.อ.สุจินดา ก็เป็นน้องสาวแท้ๆ ของ พล.อ.อิสระพงศ์ และลูกพี่ลูกน้องของ พล.อ.อิสระพงศ์ คือ พล.ท.ชัยณรงค์ หนุนภักดี (ยศในขณะนั้น) ก็ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาความมั่นคงด้วย