- ภาพ
เมื่อเวลา 13.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง หรือเทียบเท่า ว่า จากที่ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดนิทรรศการ “เย็นศิระ เพราะพระบริบาล” ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพอพระทัยในการจัดนิทรรศการดังกล่าว เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ ทรงมีกระแสรับสั่งว่าเป็นเรื่องที่ดีประชาชนจะได้รับทราบ สถานบันได้ทำหน้าที่อย่างไรบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่รัชกาลที่ 9 ทรงวางรากฐานต่างๆ มากมาย ต่อเนื่องจากหลายรัชกาล ทุกยุคทุกสมัย ซึ่งต้องการให้ประชาชนเข้าใจว่าตรงนี้คือรากฐานของประเทศที่จะทำให้ประเทศมีความเข้มแข็งบนรากฐานอันแข็งแกร่ง
“พวกเราทุกคนก็รับสนองพระบรมราโชบายของพระองค์ท่าน ในการที่จะทำให้ศาสตร์พระราชาทั้งหมดไปสู่การขับเคลื่อนที่เป็นรูปธรรมในทุกๆด้าน ทั้งเรื่องโครงการพระราชดำริ กว่า 4 พันโครงการ รวมทั้งศูนย์พัฒนาทั้งหมด 6 ศูนย์ ซึ่งมีความแตกต่างกัน ซึ่งตนเองได้กราบบังคมทูลไปว่าปัจจุบันมี 134 ประเทศ ได้นำไปใช้โดยมีการประยุกต์ใช้ให้เกิดความเหมาะสมตามภูมิศาสตร์ของประเทศนั้น ๆ ซึ่งเรื่องเหล่านี้จึงทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงได้รับการถวายรางวัลจากสหประชาชาติ ว่าได้ทำคุณประโยชน์ต่อโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจของทุกคน”
ทั้งนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระทัยในทุกด้าน และตรัสว่าทำได้ดี พร้อมขอให้ช่วยกันทำต่อไป และทรงมีกระแสรับสั่งด้วยว่างานสำคัญต่าง ๆ ก็มีความก้าวหน้าเรื่อย ๆ รวมทั้งรับสั่งถึงงานที่ต้องช่วยกันในระยะใกล้คือ งานวันมาฆบูชา งานสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่ ทรงรับสั่งว่าบ้านเมืองเราจะได้มีความสงบร่มเย็น พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณกับพวกเราเสมอมา ซึ่งขอร้องทุกคนว่าให้ช่วยกันทำความเข้าใจ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในตอนท้ายของการให้สัมภาษณ์ว่า ให้ทุกคนมีความสุขในช่วงวันมาฆบูชา ให้สงบจิตสงบใจ อะไรที่ไม่ดีก็ขอให้เปลี่ยนแปลง เอาศาสนามาเป็นตัวนำไม่ว่าจะศาสนาใดก็ขอให้นำมาเป็นหลักในการดำรงชีวิต และทำงานก็จะทำให้ความขัดแย้งต่าง ๆ หมดไปด้วยหลักของศาสนา เพราะคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พิสูจน์ได้จากคำสอนของพระองค์ท่าน ว่าทุกอย่างทำได้จริง อย่างสิ่งที่ตนพูดทั้งหมดก็ต้องเอาหลักของศาสนามาจับด้วย เรื่องทุจริตก็ต้องมีหิริโอตัปปะ ทั้งความละอาย และความเกรงกลัวต่อบาป
“ถ้าวันนี้ยังไม่กลัวกันก็ช่าง ตายไปแล้วก็จะรู้วันนี้พูดได้ว่าไม่มีใครรู้ เพราะยังไม่ตาย การทำงานวันนี้ต้องใช้หลักของอริยสัจ 4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ซึ่งทุกข์ คือปัญหา ก็ต้องหาวิธีการแก้ปัญหา หนทางเพื่อไปสู่การดับทุกข์ ไปสู่การปฏิรูปประเทศต้องคิดแบบนี้ วันนี้มี 2 อย่างที่นำมาใช้ได้โดยไม่ยุ่งยาก คือ คำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และสุภาษิตไทย ซึ่งความกตัญญูกตเวทีเป็นเรื่องของคนดี การไม่ทุจริตโกงกิน เป็นบ่อเกิดของความเจริญ สุภาษิตไทยมีมากมาย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว