https://www.matichon.co.th/news/
นายมาร์ค เอสโปสิโต้ ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็น 1 ใน 30 อันดับนักคิดทางธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลจากการจัดอันดับของ Thinkers 50 Radar และได้รับการยอมรับจากเวิลด์อีโคโนมิกฟอรั่ม (ดับบลิวอีเอฟ) เปิดเผยในงานสัมมนา เรื่อง”Growth Strategies: How to DRIVE your business through Global Trend” ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จัดโดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ธนาคารไทยพาณิชย์ และนิตยสารแบรนด์เอจว่า การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในศตวรรษที่ 21 อาจจะมีบางอย่างที่สำคัญกว่าการโฟกัสการเติบโตของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP Growth) ซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในปัจจุบันว่าเป็นเรื่องอะไร ทั้งยังมีแนวโน้มว่าจีดีพีรวมของเศรษฐกิจโลก อาจจะเป็นตัวเลขที่ไม่สูงมากนัก เนื่องจากการไปให้ความสำคัญกับองค์ประกอบอย่างอื่น
“ในอนาคตเอเชีย จะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก เป็นแหล่งกำเนิดความมั่งคั่ง ทั้งจากการเติบโตของเศรษฐกิจจีน และ 5 เสือแห่งเอเชีย อย่างเรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยี ขณะนี้พบว่าจีนได้พัฒนาไปเร็วและแซงหน้าสหรัฐฯและยุโรปแล้ว เช่น การผลิตรถไฟฟ้าความเร็วสูง ทำให้จีนกลายเป็นผู้นำของโลกใหม่ ด้วยการพัฒนานวัตกรรมที่รวดเร็วกว่า ดังนั้นความสำคัญจึงย้ายมาอยู่ฝั่งเอเชีย จนสัมผัสได้ ขณะที่โลกตะวันตกเป็นโลกแบบเดิมๆไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลง”
3.Inequalities ความไม่เท่าเทียมทางสังคม ต้องมีการจัดการเรื่องช่องว่างระหว่างชนชั้นและกระจายรายได้มากขึ้น และ 4.Volatility of IT ความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เป็นเทคโนโยลีแห่งอนาคตมาแรงที่สุด และจะมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น ระบบรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยาน การชำระเงินในอีคอมเมิร์ซ โดยคาดการณ์ว่าภายในปี 2563 ผู้บริโภคกว่า 85% จะซื้อสินค้าผ่านเอไอ และแชทบอทหรือระบบตอบข้อความอัตโนมัติ จะเป็นแอพพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ภายใน 5 ปีหลังจากนี้ และ 5.Enterprising Dynamics ธุรกิจกำลังจะเปลี่ยนแปลง ผู้ประกอบการต้องปรับตัวรับมือกับโมเดลธุรกิจในอนาคต โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่อาจคาดเดายาก