- ภาพ
นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบาย และยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าการส่งออกของไทยในเดือนธันวาคม 2559 ขยายตัว 6.2% ขณะที่นำเข้าขยายตัว 10.3% ส่งผลให้ดุลการค้าเดือนธ.ค.เกินดุล 938 ล้านดอลลาร์ ส่วนทั้งปี 2559 ส่งออกขยายตัว 0.45% เป็นบวกครั้งแรกในรอบ 4 ปี แต่นำเข้ายังติดลบ 3.9% ขณะที่ทั้งปี 2559 เกินดุล 20,659 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ส่วนในปี 2560 คาดว่า การส่งออกจะขยายตัว 2.5-3.5% หลังปี 2559 ตัวเลขออกมาดี ปัจจัยหนุนจากราคาสินค้าเกษตร-อุตสาหกรรม และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเป็นแรงหนุน
โดยจากสถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าโลกในช่วงที่ผ่านมา ที่เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น แม้จะผันผวนบ้างตามช่วงเวลา แต่ตัวเลขปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจสำคัญต่างปรับตัวและมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะสหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น ราคาน้ำมันดิบเริ่มกลับมาทรงตัวอีกครั้ง และค่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัด รวมทั้งความสามารถในการปรับตัวของผู้ส่งออกไทย ส่งผลให้การส่งออกไทยในเดือนธันวาคม 2559 ขยายตัวได้ดี โดยมีสินค้าสำคัญที่เป็นตัวผลักดันการส่งออกในเดือนนี้ ได้แก่ ทองคำ ยางและผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก แผงวงจรไฟฟ้า น้ำมันสำเร็จรูป และน้ำตาลทราย ในขณะที่ตลาดส่งออกสำคัญของไทยยังขยายตัวได้ดีในเกือบทุกตลาด ยกเว้น ตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา และออสเตรเลีย
ปี 2559 การส่งออกของไทยมีมูลค่า 2.15 แสนล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวร้อยละ 0.45 สูงที่สุดในรอบ 4 ปี และสูงเป็นอันดับที่ 8 ของโลก (จาก 30 ประเทศแรกที่มีสัดส่วนส่งออกสูงสุด) อันดับ 4 ของเอเชีย และอันดับ 2 ของอาเซียน ซึ่งดีกว่าค่าเฉลี่ยของโลกที่หดตัวร้อยละ 3.1 และส่วนใหญ่หดตัว โดยเฉพาะ จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ที่หดตัวร้อยละ 6.4 5.9 7.0 และ 12.0 ตามลำดับ โดยสินค้าสำคัญที่ช่วยให้การส่งออกไทยขยายตัว ได้แก่ ทองคำ ยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศ ผลไม้แปรรูป และแผงโซลาร์เซลล์
ในขณะที่ตลาดส่งออกส่วนใหญ่ยังขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น จีน สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และสหภาพยุโรป สะท้อนว่า การส่งออกของไทยในช่วงที่ผ่านมาสามารถปรับตัวได้ดีและยังเป็นที่ต้องการของตลาดโลก แม้ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกยังอยู่ในช่วงชะลอตัวและอุปสงค์โลกยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และเชื่อว่าการส่งออกไทยจะสามารถกลับมาขยายตัวได้ตามศักยภาพที่ร้อยละ 5.0 เมื่อสถานการณ์โลกปรับตัวกลับเข้าสู่ปกติในระยะต่อไป
ด้านการนำเข้าทั้งปี 2559 มีมูลค่า 1.95 แสนล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงร้อยละ 3.94 ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้ารวม 2.07 หมื่นล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งเป็นการเกินดุลการค้าที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
สำหรับแนวโน้มการส่งออกของไทยในปี 2560 คาดว่าจะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าปีก่อน และมีโอกาสขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสำคัญจากราคาน้ำมันดิบที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นแบบช้าๆ ส่งผลให้แนวโน้มราคาสินค้าเกษตรสำคัญ และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ทิศทางค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าแบบค่อยเป็นค่อยไป จะช่วยสนับสนุนให้การส่งออกมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เป็นไปอย่างล่าช้า อีกทั้งความไม่ชัดเจนของนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันต่อการค้าโลกในระยะต่อไป โดยรวม คาดว่า ค่าเงินบาททั้งปี 2560 จะอยู่ในช่วง 35.5-37.5 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. ในขณะที่ราคาน้ำมันน่าจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างช้าๆ ไปอยู่ในกรอบ 50.0-60.0 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรล ซึ่งจะทำให้การส่งออกของไทยในปี 2560 ขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 2.5-3.5 โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ จะติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องต่อไป