จากกรณี “น้องอิน” น.ส.ณัฐนิชา เชิดชูบุพการี อายุ 20 ปี อดีตนักแสดงเด็กชื่อดัง ประสบอุบัติเหตุขับรถยนต์ BMW รุ่น X1 สีขาว หมายเลขทะเบียน 5กบ-5248 กรุงเทพมหานคร เสียหลักตกลงไปข้างทางชนกับต้นจามจุรีขนาดใหญ่ เสียชีวิต บนถนนทางหลวงหมายเลข 9 บริเวณเชิงสะพานข้ามทางรถไฟ หลักกิโลเมตรที่ 79 มุ่งหน้าสระบุรี ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา11.00 น. วันที่ 9 เมษายน ที่บริเวณเชิงสะพานข้ามทางรถไฟ หลักกิโลเมตรที่ 79 ถนนทางหลวงหมายเลข 9 ซึ่งเป็นจุดที่ น้องอิน หรือ น.ส.ณัฐนิชา ขับรถยนต์ BMW ประสบอุบัติเหตุรถชนต้นไม้เสียชีวิต นายสุจินต์ มั่งนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักอำนวยความปลอดภัย กรมทางหลวง นายรุ่ง บัวใหญ่รักษา ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงปทุมธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่วิศวกรของกรมทางหลวง ลงพื้นที่ ตรวจสภาพพื้นผิวการจราจรที่บริเวณคอสะพานซึ่งมีบิดตัว พร้อมทั้งทำการบันทึกภาพจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งทำการติดตั้งแถบสะท้อนแสง บริเวณแบบริเออ์ทั้งสองฝั่ง

นายสุจินต์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางมาพร้อมกับผู้อำนวยการแขวงการทางปทุมธานี เพื่อตรวจสอบพื้นถนนตรงจุดเกิดเหตุ ว่ามีชำรุดหรือไม่จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบว่าถนนชำรุดแต่พบเพียง ถนนทางเลนซ้ายสุดก่อนที่จะลงสะพานข้าม คลองวังแดง ก่อนจะถึงจุดเกิดเหตุสะพานข้ามทางรถไฟประมาณ 200 เมตร มีรอยทรุดเป็นคลื่นถนนเพียงเล็กน้อย จึงได้ร่วมหารือเพื่อหาแนวทางการป้องกัน โดยให้เจ้าหน้าที่กรมทาง แขวงการทางปทุมธานี ทำการซ่อมไฟส่องสว่าง ติดแผ่นสะท้อนแสงที่แบริเออร์ ติดเสาล้มลุกที่บริเวณคอสะพานที่มีทางเบี่ยงจากถนนสาย 347 นอกจากนี้ ที่คอสะพานข้ามทางรถไฟเพิ่มความยาวของกาดเลนส์อีก 8 เมตร จาก ติดป้าย ไฟกระพริบ จำกัดความเร็ว ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อเตือนและจำกัดความเร็วของผู้ขับขี่

นายรุ่ง กล่าวว่า สำหรับช่วงคอสะพานบนถนนทางหลวงหมายเลข 9 ทุกสะพานจะมีสภาพคอนสะพานทรุดตัว อันเนื่องมาจากมีรถยนต์ใช้เส้นทางเพิ่มมากขึ้น และมีรถยนต์บรรทุกจำนวนมากใช้เส้นทางเมื่อจะขึ้นสะพานจะต้องใช้กำลังมาก และเคลื่อนตัวช้าทำให้มีการทุดตัว ประกอบกับช่องจราจรมีเพียง 2 ช่องจราจร จึงเกิดปัญหาการชนท้าย แนวทางการแก้ไขกรมทางหลวงมีการสำรวจเส้นทางแล้วเตรียมที่จะมีการขยายเส้นทางเพื่อรองรับการจราจร งบประมาณ 6,000 ล้านบาท ช่วงคอสะพานเป็นจุดที่อันตรายหากผู้ขับขับรถด้วยความเร็วเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะไม่สามารถควบคุมรถได้จึงได้ทำการติดตั้งป้ายเตือนเรื่องของความเร็ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณต้นก้ามปูจุดที่น้องอินขับรถมาชนจนเสียชีวิต พบว่ามีร่องรอยการจุดไฟเผาเศษชิ้นส่วนเสื้อผ้า กองใหญ่ห่างออกไปประมาณ 1 เมตร ยังพบร่องรอยการจุดธูปไหม้ไปครึ่งดอก พร้อมกับกล่องน้ำผลไม้อีก 1 กล่อง ซึ่งเมื่อช่วงที่มีการเชิญดวงวิญญาณของน้องอิน เมื่อวันที่8 เมษายน ไม่มีการเผาแต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่แขวงการทาง ให้ข้อมูลว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.วันที่ 8 เมษายน ได้มีการเข้ามาสำรวจที่เกิดเหตุเวลากลางคืนและตรวจสอบเรื่งของแสงสว่าง พบเห็นคนเข้ามาประกอบพิธี จุดธูปจุดเทียน เข้าไปสอบถามบอกว่ามาเรียกวิญญาณ จากนั้นได้เดินทางออกไป

ต่อเมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ฤทธิ์ ศิริเทพ ผกก.สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ 50 นาย เดินหน้ากระดานปูพรหมค้นโทรศัพท์มือถือของน้องอินที่สูญหายใช้เวลาประมาณ 20 นาที พบซากโทรศัพท์ แตกตกอยู่ในพงหญ้า พร้อมเครสโทรศัพท์ไอโฟน 7 สีแดง และยังมีซิมการ์ดอยู่ กับซากของเครื่อง ใกล้กันยังพบกุญแจ 1 พวง จึงได้ทำการถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน

พ.ต.อ ฤทธิ์ ศิริเทพ ผกก.สภ.บางปะอิน กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจจากแพทย์ถึงปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดซึ่งให้พนักงานสอบสวนติดต่อทางนิติวิทยาศาสตร์ อยากให้ใครที่เห็นเหตุการณ์หรือมีใครที่ผ่านจุดเกิดเหตุมีกล้องหน้ารถมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่าน่าจะมีคนเห็นเหตุกาณ์ เพื่อมาสรุปสาเหตุ

พ.ต.อ.สง่า ศรัณยานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากคำให้สัมภาษณ์ของนายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ พระเอกชื่อดัง เชื่อว่าน้องอินน่าจะขับรถมาด้วยความเร็วมาในช่วงที่ฝนตกหนัก และเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งให้พนักงานสอบสวนประสานนายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ และพยานที่ระบุว่าน้องอินเดินทางมาหา มาทำการสอบสวนและจะทำให้ทราบถึงเส้นทางที่เดินทางมา