‘คลัง’ สั่งสรรพากรหาช่องเก็บภาษีหุ้นชิน

http://www.bangkokbiznews.com/news/

รมว.คลัง สั่งสรรพากรหาช่องเก็บ “ภาษีหุ้นชิน” ก่อนสิ้นอายุความ

รัฐมนตรีคลังสั่งการให้กรมสรรพากรหาช่องทางทางกฎหมายเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ปก่อนสิ้นอายุความ ยันกรณีดังกล่าวไม่กดดันการทำงาน เพราะเป็นหน้าที่ปกติในการจัดเก็บของกรมสรรพากร พร้อมตั้งกรรมการสอบหากพบความผิดปกติในการทำหน้าที่

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมสรรพากรไปพิจารณาหาช่องทางในการจัดเก็บภาษีการซื้อขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด ก่อนที่อายุความจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค.นี้

“เรื่องดังกล่าวถือเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่จะพิจารณาว่า จะจัดเก็บภาษีใครได้หรือไม่ได้ ซึ่งตนก็ฝากให้กรมสรรพากรดูแลเรื่องนี้อย่างรอบคอบ โดยทุกอย่างต้องเดินตามกฎหมาย ฉะนั้น ก่อนสิ้นอายุความ ทางสรรพาก เขาต้องหาช่องทางอื่นว่า จะทำอะไรได้แค่ไหน ก็ต้องไปคุยกับสรรพากรว่า จะทำอะไรได้แค่ไหน”

ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีอำนาจที่จะขยายอายุความคดีภาษี เขากล่าวว่า เรื่องดังกล่าวทางคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีที่มีนายประภาศ คงเอียด รองปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานได้มารายงานถึงผลการพิจารณาว่า การขยายระยะเวลาคดีความภาษีกระทำได้ต่อเมื่อเป็นคุณต่อผู้เสียภาษี แต่กรณีที่เป็นโทษต่อผู้เสียภาษีไม่สามารถขยายอายุความได้

“ทางทีมกฎหมายเขาดูแล้ว เขาบอกทำไม่ได้ ซึ่งการขยาย ต้องทำเพื่อเป็นคุณต่อผู้เสียภาษี เช่น เขามาเสียภาษีไม่ครบ เป็นเพราะเหตุบางอย่าง จะขอเสียเพิ่ม จะไม่ปรับเขา โดยขยายเวลาให้ แต่ถ้าขยายเพื่อเรียกย้อนหลัง ถ้าทำแล้ว จะกลายเป็นว่า ไม่มีอายุความ เขาบอกว่า เจตนารมณ์กฎหมาย ไม่ได้ให้อย่างนั้น ฉะนั้น คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีก็บอกทำไม่ได้”

เขากล่าวด้วยว่า เข้าใจว่า ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบจะทำหนังสือชี้แจงไปยังสตง.แล้วบางส่วน แต่แม้จะมีการชี้แจงไปแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า หน้าที่การจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรจะหมดไป ฉะนั้น มีอะไรที่ทำได้ ก็ต้องไปดู และ ทำให้เต็มที่
ต่อข้อถามที่ว่า หลังสิ้นสุดระยะเวลาคดีความภาษีดังกล่าวแล้ว กรมสรรพากรจะถือว่า ละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เขากล่าวว่า ถ้ามีอะไรที่น่าสงสัยเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษี ก็ต้องตั้งกรรมการสอบ โดยหากได้ข้อสรุปว่า ไม่จัดเก็บภาษีดังกล่าว ทางกรมสรรพากรก็ต้องมีเหตุผลที่จะอธิบาย

“ได้รับรายงานถึงสาเหตุที่ไม่จัดเก็บภาษีในช่วงที่ผ่านมาว่า มีการพิจารณาเรื่องนี้ ก่อนปี 2555 โดยบอกว่า เรื่องนี้ จบไปแล้วหลังศาลพิพากษาบางส่วน บางส่วนเป็นการพิจารณาภายในกรมฯเอง แต่รายละเอียดต้องไปถามกรมสรรพากร”

เขากล่าวและว่า การพิจารณาว่า จะเก็บหรือไม่จัดเก็บภาษีดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องที่กดดันการทำงานของตน เพราะเป็นเรื่องปกติ ที่ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำไป ถ้าเก็บไม่ได้ ก็ต้องมีมูลเหตุว่า เก็บไม่ได้เพราะอะไร