http://www.matichon.co.th/news
กกต.ตั้ง คกก.พัฒนาพรรคการเมือง ‘เอนก เหล่าธรรมทัศน์’ นั่งเป็นประธาน พร้อมด้วย’ภูมิธรรม-ชำนิ-อนุทิน-นิกร’ ดันแผนยุทธศาสตร์-สร้างการรับรู้ ปชช.มีส่วนร่วมการเมือง
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่ 14/2560 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาพรรคการเมืองเพื่อการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญ ลงนามโดยนายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. โดยในคำสั่งดังกล่าวระบุว่า ด้วยร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. . … มาตรา 224(5) ได้บัญญัติให้กกต. มีอำนาจและหน้าที่ในการดูแลการดำเนินงานของพรรคการเมืองให้เป็นไปตามกฎหมาย ประกอบกับในหมวด 16 มาตรา 258 ก. ได้บัญญัติให้มีการปฏิรูปประเทศในด้านการเมือง เพื่อมุ่งหวังให้ประชาชนเข้าใจระบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเพื่อให้การเตรียมการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองตามรับธรรมนูญเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
อาศัยตามมติกกต.ในการประชุม ครั้งที่ 9/2560 เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2560 กกต. จึงแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ประกอบด้วยประธานกรรมการ กรรมการ เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ รวม 20 คน อาทิ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นประธานกรรมการฯ เลขาธิการกกต. เป็นรองประธานกรรมการฯ นายประสาน วงศ์สวัสดิ์ ที่ปรึกษากกต. นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายนิกร จำนง กรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาปฏิรูปประเทศ(สปท.) นายประภาส ทองสุข ผู้ทรงคุณวุฒิด้านประชาสัมพันธ์ นายพิรุณ ฉัตรวนิชกุล อดีตรองเลขากกต. นายธเนศวร์ เจริญเมือง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายดำรงศักดิ์ เครือแก้ว อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายธนภน วัฒนกุล อนุกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปธรรมาภิบาลฯ สภาขับเคลื่อนการปฏิรุปประเทศ และรองเลขาธิการกกต.เป็นกรรมการ
ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดดังกล่าวมีหน้าที่กำหนดแนวทางในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพรรคการเมือง แผนพัฒนาพรรคการเมืองและแนวทางการพัฒนาพรรคการเมืองเพื่อการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญ กำหนดแนวทางสร้างการรับรู้เกี่ยวกับพรรคการเมืองให้ประชาชน การส่งเสริมให้ประชาชนและสมาชิกพรรคการเมืองเข้ามามีส่วนร่วมหรือสนับสนุนพรรคการเมือง ตรวจสอบการดำเนินกิจการของพรรค นอกจากนี้ยังมีอำนาจหน้าที่ในการติดตามประเมินผลการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมนี้