https://www.matichon.co.th/news/
สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า นายมารีอาโน ราฆอย นายกรัฐมนตรีสเปนเปิดเผยว่า จะลดอำนาจของรัฐสภากาตาลุญญา ปลดรัฐบาลท้องถิ่น และจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นภายในเวลา 6 เดือน ที่นับเป็นความพยายามในการหยุดยั้งแรงผลักดันในการแยกตัวออกจากสเปนของแคว้นที่ปกครองตนเองแห่งนี้ หลังประชุมหารือกับคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม
นายราฆอยกล่าวว่ารัฐบาลสเปนตัดสินใจใช้มาตรการที่ไม่เคยใช้มาก่อนเพื่อกอบกู้หลักนิติรัฐ ตอกย้ำให้แน่ใจว่าสถาบันในท้องถิ่นมีความเป็นกลาง และรับประกันการบริการประชาชนและกิจกรรมทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับการดำรงรักษาไว้ซึ่งสิทธิของพลเมืองทั้งหมด
ถึงตอนนี้ มาตรการดังกล่าวจะต้องได้รับการรับรองจากวุฒิสภาของสเปนซึ่งมีกำหนดจะลงมติในวันที่ 27 ตุลาคมนี้
ย่างก้าวดังกล่าวนี้มีขึ้นหลังจากสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 ทรงมีพระราชดำรัสเมื่อคืนวันที่ 20 ตุลาคมว่า สเปนต้องเผชิญกับ “ความพยายามในการแบ่งแยกดินแดนที่ยอมรับไม่ได้ พร้อมตรัสว่าวิกฤตที่ถูกจุดชนวนขึ้นจากการลงประชามติเพื่อแยกตัวเป็นเอกราชที่ถูกสั่งห้ามเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ต้องแก้ไข “ผ่านสถาบันด้านประชาธิปไตยที่ชอบด้วยกฎหมาย”
สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 ทรงตรัสด้วยว่า “เราคงไม่ต้องการเสียสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาด้วยกันไป”
สเปนถือเป็นหนึ่งในชาติที่ปกครองแบบกระจายอำนาจมากที่สุดในโลกตะวันตก แต่รัฐบาลกลางในกรุงมาดริดสามารถยึดอำนาจการปกครองของแคว้นที่ก่อกบฎคืนมา แต่พวกเขาไม่เคยใช้อำนาจนั้น
การปกครองตนเองถือเป็นประเด็นที่อ่อนไหวมากในแคว้นกาตาลุญญาซึ่งมีประชากร 7.5 ล้านคนและมีภาษากับวัฒนธรรมเป็นของตนเอง โดยอำนาจปกครองตนเองส่วนหนึ่งถูกยึดไปในยุคที่อยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลเผด็จการทหาร
มีความกลัวจากหลายฝ่ายว่าจะเกิดความไม่สงบขึ้นหากรัฐบาลกลางกรุงมาดริดบังคับใช้การปกครองโดยตรงเหนือกาตาลุญญาในรูปแบบใดๆ ก็ตาม โดยนายการ์เลส ปุจเดมอนต์ ผู้นำกาตาลุญญากล่าวว่า หากรัฐบาลสเปนเลือกที่จะใช้วิธีการดังกล่าว อาจเป็นการผลักดันให้สมาชิกสภานิติบัญญัติท้องถิ่นประกาศเอกราชฝ่ายเดียว
ทว่านายราฆอยกล่าวในการแถลงข่าวหลังการประชุมสุดยอดผู้นำอียูในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมว่า สเปนมาถึง “จุดวิกฤต” แล้วหลังเผชิญหลุมดำทางการเมืองและรัฐบาลจำเป็นต้องมีมาตรการเพื่อหยุดยั้งการละเมิดหลักนิติธรรม