https://hilight.kapook.com/
เปิดประวัติ สตีเฟน แพดด็อก มือปืนโหดสังหารผู้คนไปกว่า 59 ชีวิต ในเหตุกราดยิงลาสเวกัส ข้อมูลเผยเป็นเศรษฐีอดีตนักบัญชี ครอบครองอาวุธปืนเป็นจำนวนมาก และเป็นนักพนันตัวยง
เหตุกราดยิงที่เทศกาลดนตรีคันทรี Route 91 Harvest Music Festival ที่ถนนลาสเวกัส สตริป ใกล้กับโรงแรมมัณฑะเลย์ เบย์ ในนครลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา คือโศกนาฏกรรมที่สะเทือนขวัญผู้คนทั้งโลก มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 59 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 500 ราย นับเป็นเหตุกราดยิงที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของสหรัฐอเมริกา คนร้ายในเหตุนี้ คือ สตีเฟน แพดด็อก (Stephen Paddock) แต่ก่อนที่จะถูกจับกุม เขาได้ชิงฆ่าตัวตายไปเสียก่อน จึงไม่มีใครรู้ว่า ทำไมเขาถึงทำแบบนั้น และมีแรงจูงใจอะไร
ผู้คนทั่วโลกต่างตั้งคำถามว่า สตีเฟน แพดด็อก คือใคร เขาเป็นใครมาจากไหน ทำไมเขาถึงลงมือสังหารหมู่ผู้คนจำนวนมากเช่นนั้น และนี่คือประวัติ และเรื่องราวส่วนตัวของเขา
1. ชายวัยเกษียณผู้ร่ำรวย ใช้ชีวิตอย่างเงียบ ๆ
สตีเฟน แพดด็อก คือชายผิวขาวชาวอเมริกัน อายุ 64 ปี เขาเคยประกอบอาชีพเป็นนักบัญชีมาก่อน เขาร่ำรวยมหาศาล มีเงินหลายล้าน มีเครื่องบิน 2 ลำ และเป็นนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เมื่อราว ๆ 20-30 ปีก่อน เขามีที่พักอยู่ที่รัฐเทกซัสและรัฐแคลิฟอร์เนีย และอาศัยทั้งสองที่ แบบไป ๆ กลับ ๆ ก่อนจะมาอาศัยที่เมืองเรโน รัฐเนวาดา ในปี 2555-2559 หลังจากนั้นก็ย้ายมาอยู่ที่บ้าน 2 ชั้น ในย่านชุมชนผู้เกษียณอายุอันเงียบสงบ ในเมืองเมสกีต รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้แล้ว เขายังมีบ้านอีกหลังอยู่ที่แบบบลิง บรูก คอร์ท โดยเขาอาศัยอยู่กับ มาริลู เดนลีย์ แฟนสาว วัย 62 ปี
สตีเฟนมีใบอนุญาตสำหรับการขับเครื่องบินและล่าสัตว์ อีกทั้งยังเป็นนักพนันชั้นเซียน ถึงแม้ว่าเพื่อนบ้านจะมองว่าเขาเป็นคนที่ค่อนข้างแปลก แต่เขาก็ไม่เคยมีประวัติการก่ออาชญากรรมใด ๆ สิ่งผิดกฎหมายที่เขาเคยทำ มีแค่การทำผิดกฎจราจรทั่วไปเท่านั้น ครอบครัวของสตีเฟนต่างก็ช็อกอย่างหนัก เมื่อรับรู้ว่าเขาก่อเหตุสังหารหมู่ผู้คนไปเป็นจำนวนมาก โดย อีริก แพดด็อก น้องชายของสตีเฟน กล่าวว่า พี่ชายของเขาไม่เคยเป็นทหาร และไม่ใช่คนหลงใหลปืน สิ่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะเขา “เกิดสติหลุดไป ”
“เขาเป็นผู้ชายธรรมดา ๆ ชอบการขับเรือ ชอบเล่นโป๊กเกอร์ และชอบไปกินเบอร์ริโตที่ร้านทาโก้ เบลล์ (Taco Bell) มันเป็นเรื่องที่บ้าระห่ำมาก ไม่มีเหตุผลอะไรที่ทำให้เขาทำแบบนั้นเลย” อีริก แพดด็อก น้องชายของสตีเฟน กล่าวถึงพี่ชายของเขา
2. ครอบครองอาวุธปืนเพียบ
ในคืนวันที่ 1 ตุลาคม เวลาประมาณ 21.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) สตีเฟนพักอยู่ที่ห้องในชั้น 32 ของโรงแรมมัณฑะเลย์ เบย์ เขาทุบกระจกหน้าต่างห้องพัก และเปิดฉากยิงใส่ผู้คนที่กำลังชมคอนเสิร์ต ซึ่งจัดขึ้นในพื้นที่ใกล้เคียงกัน และยิงตัวเองตายหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจลาสเวกัสตรวจพบปืนจำนวน 23 กระบอกในห้องพักของเขา โดยในนั้นประกอบไปด้วย ปืนไรเฟิล AK-47 และ AR-15 รวมทั้งหัวกระสุนแบบ คาลิเบอร์ .223 และ คาลิเบอร์ .308 รวมทั้งปืนพก
ยิ่งไปกว่านั้น จากการตรวจค้นบ้านของสตีเฟนในเมืองเมสกีต เจ้าหน้าที่ตำรวจพบปืนอีก 19 กระบอก แผงกระสุนอีกหลายพันแผง พบระเบิดในบ้านและในรถ รวมทั้งยังมี “อุปกรณ์ช็อตไฟฟ้า” อีกด้วย รายงานระบุว่า ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2559 สตีเฟนไปซื้อปืนหลายกระบอกที่ร้านปืน New Frontier Armory ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของนครลาสเวกัส ซึ่งเป็นการซื้อ-ขายอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม เดวิด เฟมิกลิเอตติ เจ้าของร้านปืน New Frontier Armory กล่าวว่า อาวุธปืนที่สตีเฟนใช้ก่อเหตุนั้น ไม่น่าจะเป็นอาวุธที่ซื้อมาจากร้านของเขาแน่ ๆ หรือไม่มันก็เป็นอาวุธที่ผ่านการดัดแปลงมาแล้ว เพราะมันสามารถกราดยิงผู้คนได้ติดต่อกันเป็นร้อย ๆ นัด ซึ่งอาวุธปืนปกติทำแบบนี้ไม่ได้
3. ไม่มีประวัติอาชญกรรม แต่มีพ่อเป็นอาชญากร
เบนจามิน ฮอสกินส์ แพดด็อก (Benjamin Hoskins Paddock) พ่อของสตีเฟน คือหนึ่งในอาชญากรตัวเอ้ของยุค 60-70 ที่ทางการสหรัฐฯ ต้องการตัวมากที่สุด เบนจามินเคยก่อเหตุร้ายในนครลาสเวกัสมาแล้วหลายครั้ง และใช้อาวุธปืนปล้นธนาคารมาแล้วหลายแห่ง ซึ่งสื่อท้องถิ่นในยุคนั้นรายงานว่า “เป็นเรื่องเหลือเชื่ออย่างยิ่ง ที่นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปี ผู้มีความสามารถ จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมเช่นนี้”
โปสเตอร์ประกาศจับของเอฟบีไอ หรือ สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI – Federal Bureau of Investigation) มีข้อมูลระบุว่า เบนจามิน ฮอสกินส์ แพดด็อก “เป็นบุคคลอันตรายที่พกพาอาวุธปืน อีกทั้งยังมีปัญหาทางจิต และมีแนวโน้มว่าจะฆ่าตัวตาย” อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมเขาได้ในปี 2521 และเขาเสียชีวิตในปี 2541
4. นักพนันทุ่มไม่อั้น
สตีเฟนเป็นนักพนันตัวยง เขาชื่นชอบการเล่นวิดีโอโป๊กเกอร์ รายงานระบุว่า ในช่วงสัปดาห์ก่อนวันเกิดเหตุ เขาเดินทางมาเล่นพนันที่กาสิโนในลาสเวกัส โดยทุ่มเงินพนันเป็นจำนวนมาก อย่างน้อยวันละ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 330,000 บาท บางวันทุ่มวงเงินไปมากกว่า 20,000-30,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 660,000-1,000,000 บาท แต่ไม่มีการรายงานเพิ่มเติมว่า เงินที่เขาทุ่มไปกับการพนันทั้งหมดนั้น เขาชนะได้เงิน หรือเสียจนหมด และไม่ปรากฏแน่ชัดว่านี่คือปมสาเหตุของการลงมือสังหารผู้คนหรือไม่
ข้อมูลจาก
bbc.com, washingtonpost.com, cbsnews.com, ndependent.co.uk,metro.co.uk,nbcnews.com
ภาพจาก fbi.gov, ทวิตเตอร์ @GMA