ศาลสหรัฐฯ สั่งห้ามเนรเทศพลเมือง 7 ชาติอิสลาม โดยคุ้มครองเฉพาะผู้ถือวีซ่าถูกต้อง

 http://www.kapook.com/

โดนัลด์ ทรัมป์
ภาพจาก STEPHANIE KEITH/AFP

        ศาลแขวงรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สั่งห้ามเทรเทศพลเมือง 7 ประเทศ ที่ถูก โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามระงับวีซ่า โดยคุ้มครองเฉพาะผู้มีวีซ่าเข้ามาโดยถูกต้อง

        วันที่ 28 มกราคม 2560 เว็บไซต์เดลี่เมล เปิดเผยว่า ศาลแขวงรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำสั่งฉุกเฉินระงับอำนาจของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่ให้เนรเทศพลพลเมือง 7 ชาติที่นับถืออิสลามออกจากประเทศซึ่งถือวีซ่าเข้าเมืองมาโดยถูกต้อง

        คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นหลัง สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน และองค์กรสิทธิมนุษยชนอีกหลายแห่งร่วมกันยื่นคำร้องเพื่อขอความเป็นธรรมจากศาลในนามตัวแทนของพลเมืองทั้ง 7 ประเทศ ได้แก่  อิรัก อิหร่าน เยเมน ซีเรีย โซมาเลีย ลิเบีย และซูดาน หลังมีรายงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสนามบินทั่วสหรัฐฯ กักตัวผู้ถือสัญชาติดังกล่าวตามคำสั่งของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา

โดนัลด์ ทรัมป์
ภาพจาก MANDEL NGAN/AFP

        ด้าน กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ เพื่อจับตาสถานการณ์ตามสนามบินทุกแห่งในประเทศ โดยประเมินว่ามีผู้ได้รับผลกระทบเบื้องต้นอย่างน้อย 375 คน จำนวนนี้ 109 คนเดินทางถึงสหรัฐฯ แล้วแต่ถูกกักตัว และอีก 109 คนถูกสายการบินปฏิเสธตั้งแต่ต้นทาง พร้อมกับแนะนำให้ผู้ถือสัญชาติของ 7 ประเทศดังกล่าวที่อยู่นอกสหรัฐฯ แต่มีกรีนการ์ดให้ติดต่อเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลก่อนในเบื้องต้น

ขณะเดียวกัน ทาง ทรัมป์ เองก็ยังเดินหน้าลงนามเกี่ยวกับนโยบายที่หาเสียงเอาไว้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดก็เพิ่งได้ลงนามใช้อำนาจพิเศษสูงสุดของฝ่ายบริหาร โดยให้เวลาทัพสหรัฐฯ 30 วัน ในการจัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์ กำจัด กลุ่มไอเอส และเสนอให้ทำเนียบขาวพิจารณา โดยสาระสำคัญของคำสั่งดังกล่าวรวมถึงการมอบหมายให้ พล.อ. เจมส์ แมตทิส รมว.กระทรวงกลาโหม เสนอแนวทางปฏิรูปกฎการปะทะที่เกี่ยวข้องกับการใช้กำลังทหารในแบบที่ต่างจากเดิม

        สำหรับ การใช้อำนาจพิเศษด้านความมั่นคงเกี่ยวกับ ไอเอส ของ ทรัมป์ ถือเป็นอีกหนึ่งในนโยบายหาเสียงของเขาเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้เจ้าตัวยังวิจารณ์รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ว่า ไร้ประสิทธิภาพในการเผชิญกับภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งการลงนามครั้งนี้ของ ทรัมป์ ชี้ชัดว่าต้องการให้กองทัพสหรัฐฯ มีอำนาจโดยตรงในเรื่องนี้ ถึงขั้นอาจจะยกระดับปฏิบัติการทางทหารในตะวันออกกลางโดยให้กองทัพตอบโต้ด้วยมีความรุนแรงขึ้นมากขึ้น

โดนัลด์ ทรัมป์
ภาพจาก MANDEL NGAN/AFP