ไม่ได้มาเล่นๆ ! สหรัฐฯ ส่งฝูงบินทิ้งระเบิด B-1B โฉบผ่านเกาหลีเหนือ

https://hilight.kapook.com/

              กองทัพสหรัฐฯ ส่งฝูงเครื่องบินรบและเครื่องบินทิ้งระเบิด บินผ่านเหนือเขตปลอดทหารเกาหลีเหนือ นับเป็นครั้งแรกในศตวรรษที่ 21 ที่เข้ามาลึกขนาดนี้ และบอกให้รู้ว่าสหรัฐฯ ไม่อ่อนข้อกับท่าทีแข็งกร้าวของ คิมจองอึน

เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2560 สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์ รายงานว่า สหรัฐอเมริกาได้ทำการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ B-1B และ เครื่องบินรบ F-15 ออกไปบินโฉบเหนือคาบสมุทรเกาหลี เพื่อเป็นการแสดงให้เกาหลีเหนือเห็นว่าสหรัฐฯ ไม่ได้อ่อนข้อต่อท่าทีอันแข็งกร้าวที่มุ่งคุกคามมาโดยตลอด ดังเช่นคำพูดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ได้กล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า คิมจองอึนคือคนบ้า และเขาจะได้เจอกับการทดสอบของจริง อย่างที่เขาไม่ได้เคยสัมผัสมาก่อน

ฝูงเครื่องบินรบดังกล่าวบินขึ้นจากฐานทัพอากาศสหรัฐฯ บนเกาะโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น มุ่งหน้าเข้าสู่เกาหลีเหนือ ก่อนจะบินผ่านพื้นที่เหนือสุดของเขตปลอดทหาร ซึ่งเป็นเส้นพรมแดนกั้นระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ และนี่เป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษที่เครื่องบินของสหรัฐฯ บินข้ามมาไกลถึงโซนนี้

“ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในศตวรรษที่ 21 ที่เครื่องบินทิ้งระเบิดและเครื่องบินรบของกองทัพสหรัฐฯ บินข้ามเขตปลอดทหารเข้าไปอยู่นอกชายฝั่งของเกาหลีเหนือ และนี่คือการแสดงให้เห็นว่า พวกเราไม่คิดว่าพฤติกรรมแข็งกร้าวของเกาหลีเหนือเป็นเรื่องล้อเล่น” ดานา ไวท์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าว

เครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B นั้น ถูกนำมาใช้งานทางทหารเป็นครั้งแรกในช่วงกลางทศวรรษ 1980 มันมีพื้นที่ในการบรรทุกระเบิดธรรมดาแบบจำกัด เพราะมันออกแบบมาเพื่อรองรับระเบิดนิวเคลียร์โดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีการปรับปรุงแก้ไขให้สามารถทิ้งระเบิดได้อีกด้วย แต่ภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต หลายฝ่ายเล็งเห็นว่าเครื่องบินสำหรับระเบิดนิวเคลียร์โดยเฉพาะ ไม่ใช่เรื่องจำเป็นอีกต่อไป มันจึงถูกพักการใช้งานไป

ทั้งนี้ก่อนหน้าที่ฝูงเครื่องบินรบดังกล่าวจะมุ่งหน้าไปเกาหลีเหนือเจ้าหน้าที่ทางการของสหรัฐฯ สามารถตรวจจับแรงสั่นสะเทือนได้ในพื้นที่ทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งมันได้สร้างความกังวลเป็นอย่างมาก โดยจีนรายงานข่าวว่าแรงสั่นสะเทือนดังกล่าวเกิดจากระเบิด แต่กองสังเกตการณ์พบในภายหลังว่ามันเป็นแผ่นดินไหวขนาด 3.4 แมกนิจูด ไม่ใช่การทิ้งระเบิดแต่อย่างใด

ภาพจาก AFP PHOTO / US AAIR FORCE/PETER REFT/HANDOUT

ข้อมูลจาก news.sky.com