ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ในงานเปิดโครงการ “พาณิชย์ 4.0 สู่โลกการค้ายุคใหม่” และเปิดตัวสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (New Economy Academy: NEA) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกเดือนธันวาคม 2559 เป็นบวก 6.23% รวมทั้งปี 2559 สามารถเป็นบวก 0.45% ดีกว่าที่หลายคนคาดการณ์ และเป็นตัวเลขสูงเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค สร้างความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น แต่หากดูให้ดีๆ ถึงโครงสร้าง จะรู้ว่าโครงสร้างเศรษฐกิจไทยมีปัญหาสะสมมานาน ตัวสินค้าที่ส่งออกเป็นโครงสร้างเดิม ทั้งสินค้าเกษตร รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าเหล่านี้บางตัวน่าเป็นห่วง เพราะมีการแข่งขันกันกับประเทศเพื่อนบ้าน ในไม่ช้าจะลำบาก กว่าจะเปลี่ยนโครงสร้างได้ใช้เวลาเป็นปี จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลและเอกชนยกระดับอุตสาหกรรมเดิมที่ไม่มีเทคโนโลยี ใช้แรงงานราคาถูก ให้เพิ่มมูลค่าขึ้นมา ขณะเดียวกันพยายามสร้างสินค้าใหม่ๆ อุตสาหกรรมยุคใหม่ (นิว เอสเคิร์ฟ) ที่มีศักยภาพเพียงพอ ให้แข่งขันได้และขยายฐานการส่งออก สิ่งเหล่านี้ได้เริ่มแล้ว แต่ต้องใช้เวลา เพื่อให้เกิดขึ้นจริงๆ

“เหรียญมีสองด้าน ด้านหนึ่งคือการพัฒนาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เน้นส่งเสริมการส่งออก การลงทุนจากต่างประเทศ สิทธิประโยชน์ทางภาษี เพื่อพัฒนาสินค้าอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก เป็นสิ่งที่ทำมา 30 ปี คนได้ประโยชน์เต็มๆ คือบริษัทขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพ หากเราทำด้านนี้ด้านเดียว ความเจริญกระจุกตัว คนรวยจะกระจุกตัว ตรงนี้จะต้องกลับมาดู ทำอย่างไรให้ต่อจากนี้ดูแลคนตัวเล็ก ซึ่งได้รับอานิสงส์น้อยมากจากโลกาภิวัตน์ คนตัวเล็กหมายถึงเกษตรกร คือคนส่วนใหญ่ของประเทศ เอสเอ็มอีมีทุนไม่มาก ยังอ่อนแอ แต่เป็นกำลังของประเทศไทย ประชาชนธรรมดาที่มีความฝัน อยากสร้างธุรกิจตัวเองทำไม่ได้ เพราะไม่มีกำลังแข่งขันคนตัวใหญ่ คนกลุ่มเล็กดังกล่าวเอามารวมกันมีมากถึง 90% ของประชากรของประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตในระยะ 3-4 ปีข้างหน้า” นายสมคิดกล่าว

นายสมคิดกล่าวอีกว่า จะทำอย่างไรในการช่วยประชากรที่เป็นคนตัวเล็ก ประการแรก ภาคเกษตร พยายามเจาะสมาร์ทฟาร์มเมอร์ เอสเอ็มอี โดยรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้ 18 กลุ่มจังหวัด เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญมาก รัฐบาลเล็งเห็นว่าในพื้นที่จะรู้ความต้องการของตนเองดีที่สุดว่าจะพัฒนาอย่างไรให้จังหวัดได้ประโยชน์ ประการที่สอง คืออินเตอร์เน็ต ส่งเสริมให้คนตัวเล็กค้าขายผ่านอีคอมเมิร์ซ ไม่จำเป็นต้องค้าขายผ่านรายใหญ่ดังเช่นอดีต ในอนาคตโลกของคนตัวเล็กกำลังจะเกิดขึ้น

“การช่วยเหลือคนตัวเล็ก ส่งเสริมให้ทำธุรกิจผ่านอีคอมเมิร์ซ นำมาสู่การจัดตั้งสถาบัน New Economy Academy เพื่อเป็นศูนย์กลางในการพัฒนายกระดับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผ่านเครือข่ายความร่วมมือที่เชื่อมต่อถึงกันทั่วประเทศ ได้มอบหมายให้ 4 กระทรวงทำงานบูรณาการร่วมกัน ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ มหาวิทยาลัยและต่างประเทศ สร้างหลักสูตรใหม่ขึ้นมาในการพัฒนาคนตัวเล็ก และให้คนจากประเทศเพื่อนบ้านซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม) ร่วมด้วย ให้เติบโตไปด้วยกัน หลักสูตรแรกจะเริ่มเดือนเมษายนนี้ โดยสิ่งแรกที่ต้องทำคือสร้างแรงบันดาลใจ มีจินตนาการสร้างฝันตัวเอง จากนั้นให้วิชาการการบริหารจัดการธุรกิจ และการไปสู่ต่างประเทศทำอย่างไร” นายสมคิดกล่าว และว่า สถาบันนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสร้างบุคลากรให้กับอนาคต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถาบันแห่งนี้จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ผู้ที่สนใจอยากเข้ามาสู่อนาคตโลกของคนตัวเล็ก ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.nea.ditp.go.th