https://www.matichon.co.th/news/
เมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ดาโต๊ะ ซรี โจฮารี บิน อับดุล กาห์นิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมาเลเซียคนที่สองเข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือว่า นายกฯกล่าวต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมาเลเซียคนที่สอง และคณะผู้บริหารชมรมธุรกิจกัวลาลัมเปอร์ในโอกาสเดินทางเยือนไทย หลังจากที่เคยเยือนไทยเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นมิติใหม่แห่งการหารือระหว่างทั้งสองฝ่าย โอกาสนี้นายกฯแสดงความเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของสุลต่านแห่งรัฐเกดะห์ รวมทั้งต่อเหตุการณ์ไฟไหม้โรงเรียนสอนศาสนาที่กรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมาทำให้มีผู้เสียชีวิต 25 ราย
พล.ท.วีรชนกล่างต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์แสดงความยินดีกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับมาเลเซียในรอบด้าน และการเฉลิมฉลองการครบรอบ 60 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – มาเลเซีย โดยพล.อ.ประยุทธ์สนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายเชื่อมโยงระหว่างนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของไทย และวิสัยทัศน์ 2020 ของมาเลเซียเพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่และกันรวมทั้งส่งผลดีต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
“ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความร่วมมือในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านความมั่นคง นายกฯขอรับการสนับสนุนจากมาเลเซียในการดูแลความสงบเรียบร้อยในบริเวณที่มีพรมแดนติดกัน เนื่องจากความมั่นคงของประเทศเป็นปัจจัยพื้นฐานสำหรับการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป ด้านการท่องเที่ยว และแสดงความขอบคุณนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่เดินทางมาไทยเป็นจำนวนมาก นับเป็นอันดับ 2 รองจากจีน และย้ำว่ารัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว อาทิ ไทยแลนด์ + 1 ที่จะช่วยยกระดับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศให้เพิ่มสูงมากขึ้นด้วย” พล.ท.วีรชนกล่าว
พล.ท.วีรชนกล่าวว่า ด้านความเชื่อมโยง นายกฯแสดงความยินดีกับการเปิดเส้นทางการบินใหม่ระหว่างกรุงเทพฯ – เมืองโกตาคินาบาลู ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมาเลเซียฯเสนอให้ไทย – มาเลเซีย เพิ่มความเชื่อมโยงระหว่างกันให้มากขึ้น โดยเฉพาะระหว่างภาคใต้ของไทยและภาคเหนือของมาเลเซีย ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการขนส่งระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น โดยนายกฯได้ยืนยันความพร้อมของฝ่ายไทยในการส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐานกับมาเลเซียในพื้นที่ชายแดน ด้านเศรษฐกิจ นายกฯชื่นชมบทบาทของภาคธุรกิจมาเลเซียที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนทั้งในมาเลเซียและในภูมิภาคนี้ พร้อมทั้งเชิญชวนภาคเอกชนมาเลเซียให้สนับสนุนและลงทุนในโครงการที่สำคัญๆ ของไทย อาทิ อุตสาหกรรมเป้าหมาย เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และเมืองยางพารา ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาค
“ทั้งสองฝ่ายต่างต้องการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือที่มีอยู่ให้แนบแน่นมากยิ่งขึ้น โดยนายกฯเน้นย้ำให้ยกระดับความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนเป็นสำคัญ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าทางการค้าระหว่างกัน เพื่อให้ทั้งสองประเทศสามารถเติบโตและแข็งแกร่งไปด้วยกัน “Stronger Together” ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้แจ้งว่าทางการไทยได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายโจจี แซมูแอล เอ็มซี แซมูแอล เป็นเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทยคนใหม่เรียบร้อยแล้ว และขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลไทยจะสนับสนุนการทำงานและให้ความร่วมมือแก่เอกอัครราชทูตมาเลเซียฯ คนใหม่อย่างเต็มที่” พล.ท.วีรชนกล่าว