https://www.matichon.co.th/news/
การแข่งขันกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นับเป็นหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์และบันทึกความทรงจำครั้งสำคัญของวงการกีฬาไทย เมื่อ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงลงแข่งขันในฐานะนักกีฬาขี่ม้า ประเภทศิลปะบังคับม้าอีกครั้งหนึ่ง
พระองค์ทรงเคยเป็นตัวแทนนักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬามาหลายครั้ง นับตั้งแต่การนำทีมแบดมินตันไทยคว้าเหรียญทองประเภททีมหญิง ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 23 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ก่อนที่พระองค์จะสนพระทัยในกีฬาขี่ม้า และทรงเป็นตัวแทนนักกีฬาไทยในการแข่งขันกีฬาขี่ม้าประเภทศิลปะบังคับม้า ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่ประเทศพม่า และเอเชียนเกมส์ 2014 ที่ประเทศเกาหลีใต้
ในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ พระองค์จะทรงลงแข่งขันในประเภทศิลปะบังคับม้าเช่นเดิม พร้อมกับม้าทรงคู่ใจ ปรินซ์ ชาร์มมิ่ง โดยจะทรงแข่งขันประเภททีม ในวันที่ 22 สิงหาคม ก่อนที่จะเป็นการแข่งขันในประเภทบุคคล วันที่ 23-24 สิงหาคม ที่ทรีคิว อีเควสเทรียน ประเทศมาเลเซีย
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณ
วรีนารีรัตน์ เสด็จถึงประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้ประทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนที่เดินทางไปทำข่าวการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ทรีคิว อีเควสเทรียน เซ็นเตอร์ สนามแข่งขันจริง
พระองค์ตรัสถึงการแข่งขันครั้งนี้ว่า จะเป็นการแข่งขันอีกครั้งหนึ่งที่ได้รับใช้ชาติในปีนี้ ถึงแม้ในหนังสือจะเป็นครั้งที่ 4 ก็ตาม รู้สึกว่าตัวเองอายุมากขึ้น และก็ยังสุขภาพแข็งแรงในการแข่งขันดี ดีใจและภูมิใจทุกครั้งที่ได้มาแข่งขันให้กับประชาชนชาวไทยได้รับชมกัน
ในช่วงที่ผ่านมา พระองค์ทรงเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสมาโดยตลอด พร้อมกับลงแข่งขันในรายการระดับยุโรป เพื่อเก็บสะสมคะแนนคว้าโควต้าเข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ในอีก 3 ปีข้างหน้าที่ประเทศญี่ปุ่น
พระองค์ตรัสถึงการเก็บตัวฝึกซ้อมในช่วงที่ผ่านมาว่า ซ้อมหนักมาก มีม้าที่ต้องรับผิดชอบ 2 ตัว ซ้อมก็ตัวละ 45 นาที บางทีก็อาจจะเกินกว่านั้น ปีนี้เป็นปีที่แข่งขันในยุโรปค่อนข้างมาก 1 เดือนก็แข่ง 2 ครั้ง เป็นอย่างน้อย ไม่นับรวมถึงการซ้อมเรื่องของการฟิตร่างกายเป็นไปตามกิจวัตร ตามที่จัดตารางไว้ตามปกติ รวมทั้งมีหมายและภารกิจอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการทรงม้าด้วย แต่เรื่องการฝึกซ้อมก็จะเป็นอันดับต้นๆ เสมอ
เดิมทีก่อนหน้านี้เคยมีกระแสข่าวมาว่า พระองค์จะทรงใช้ม้าปรินซ์ ชาร์มมิ่ง ม้าคู่ใจที่ผ่านการแข่งขันในซีเกมส์ 2013 และเอเชี่ยนเกมส์ 2014 เป็นครั้งสุดท้าย เนื่องจากว่าม้าปรินซ์ ชาร์มมิ่งนั้นมีอายุมากแล้ว
พระองค์ตรัสถึงม้าที่จะทรงใช้ในการแข่งขันครั้งนี้ว่า ปีนี้ม้าปรินซ์ ชาร์มมิ่ง ตัวที่ทุกท่านเคยได้เห็นกันมาแล้ว และเป็นตัวที่เคยลงแข่งเอเชี่ยนเกมส์ที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งรอบนี้ก็จะเป็นการแข่งขันรอบท้ายๆ ค่อนข้างเกือบจะรีไทร์แล้ว แต่จะรีไทร์หรือไม่นั้นต้องมาคุยกับโค้ชอีกทีหนึ่ง
ปีนี้มีม้าตัวใหม่มา เป็นม้าระดับกรังด์ปรีซ์หรือกรังด์ปรีซ์สเปเชียล ก็คือการแข่งขันโอลิมปิก ชื่อปรินซ์ ออฟ สวิง เป็นพันธุ์โอเดนเบิร์ก จากเยอรมนี เพิ่งมาได้ประมาณ 4 เดือน แต่ปีนี้ไม่ได้มาแข่งขัน หวังว่าจะได้เจอกันอีกเร็วๆ นี้ ปีนี้จะเป็นปรินซ์ ชาร์มมิ่งก่อน ซึ่งม้าก็ยังแรงดี และมีสุขภาพแข็งแรง
นอกเหนือไปจากเรื่องของการแข่งขันด้วยตัวพระองค์เองแล้วนั้น พระองค์ยังได้สนับสนุนในการจัดการแข่งขันกีฬาต่างๆ หนึ่งในนั้นคือการแข่งขัน ปริ้นเซส คัพ ชิงถ้วยประทานพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ซึ่งการแข่งขันปีนี้จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-29 พฤศจิกายน ที่กองพันทหารม้าที่ 29 รักษาพระองค์
พระองค์ตรัสถึงการแข่งขันรายการนี้ว่า ปริ้นเซส คัพ เป็นอีกหนึ่งรายการที่ใหญ่สำหรับปีนี้ เป็นการแข่งขันที่ใหญ่ขึ้น มีทั้งระดับยุวชน, เยาวชน มาคัดเลือกทีมชาติ และมีต่างชาติมาแข่งอย่างเช่น กาตาร์, ญี่ปุ่น อีเวนต์ใหญ่ขึ้น มีความน่าตื่นเต้นมากขึ้น นอกจากเรื่องการแข่งขันจะมีงานแฟร์ มีการแข่งขันสุนัข และเรื่องม้า เรื่องอาหาร มีกิจกรรมมากมาย เพื่อให้เยาวชนและผู้ปกครองได้มาร่วมงานกันในปีนี้
ในการประทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนนั้น พระองค์ได้ตรัสปิดท้ายให้กำลังใจนักกีฬาไทยว่า การมาแข่งขัน เราทำเพื่อชาติ เวลาแข่งขันก็มีความตั้งใจ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เวลาซ้อมมาอย่างไร ก็ขอให้เกินในสิ่งที่ตัวเองซ้อมมา ตั้งใจให้มากที่สุด ผลแพ้ชนะเป็นเรื่องของบทเรียนที่ต้องดำเนินชีวิตกันต่อไป อยากให้ตั้งใจ ขอให้คนไทยชมกีฬาอย่างสนุกสนาน อย่าไปกดดันนักกีฬามากเพราะเขาก็มีความเครียดเหมือนกัน ขอให้มีความสุขกับการรับชมกีฬา
เชื่อว่าพระองค์ท่านจะทรงแข่งขันอย่างเต็มที่ในฐานะนักกีฬาไทย เพื่อสร้างความสุขให้กับแฟนกีฬาที่คอยให้กำลังใจพระองค์อย่างแน่นอน