รมว.กต.อาเซียนพอใจการแก้ปัญหาทะเลจีนใต้คืบหน้า

https://www.matichon.co.th/news/

ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาซียน ครั้งที่ 50 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ออกแถลงการณ์ร่วมซึ่งเป็นผลสรุปของการประชุมครั้งที่ 50 เมื่อช่วงค่ำวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าอาเซียนไม่สามารถหาข้อยุติเกี่ยวกับถ้อยคำที่จะใช้แถลงการณ์ฉบับนี้เนื่องจากมีความเห็นแตกต่างกันใน 2 ประเด็นใหญ่คือทะเลจีนใต้กับปัญหาคาบสมุทรเกาหลี

สำหรับประเด็นทะเลจีนใต้ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนระบุว่า ที่ประชุมได้หารือกันอย่างกว้างขวาง และรับทราบถึงความห่วงกังวลของรัฐมนตรีบางคนเกี่ยวกับการก่อสร้างและกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นการอ้างสิทธิ์ซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวซึ่งถือเป็นการบ่อนทำลายความเชื่อถือและไว้วางใจระหว่างกัน ทั้งยังเพิ่มความตึงเเครียดและส่งผลกระทบต่อสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพในภูมิภาค

ที่ประชุมยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการธำรงรักษาและส่งเสริมไว้ซึ่งสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพ ความปลอดภัย และเสรีภาพในการเดินเรือรวมถึงการบินเหนือทะเลจีนใต้ และเน้นย้ำความจำเป็นที่ต้องเพิ่มพูนความไว้วางใจและ ความเชื่อมั่น พร้อมกับยับยั้งชั่งใจในการที่จะดำเนินกิจกรรมใดๆ เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะทำให้เกิดความซับซ้อนยุ่งยากมากขึ้น รวมทั้งเดินหน้าหาทางออกโดยสันติวิธีต่อข้อขัดแย้งที่มีภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงสนธิสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล(อันครอส) ปี 2525

ทั้งนี้ ที่ประชุมเน้นย้ำความสำคัญของการปฏิบัติตามปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้ (ดีโอซี) และยินดีต่อพัฒนาการความร่วมมือระหว่างอาเซียน-จีน ที่ได้ข้อยุติในการจัดทำแนวทางประมวลการจัดทำการปฏิบัติในทะเลจีนใต้ ซึ่งที่ประชุมให้การรับรองและเห็นว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการเจรจาเพื่อจัดทำการปฏิบัติในทะเลจีนใต้(ซีโอซี) โดยมีกรอบเวลาที่ตกลงร่วมกันอย่างชัดเจน

ภายใต้พัฒนาการเชิงบวกดังกล่าว รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเน้นย้ำถึงความพร้อมที่จะเริ่มต้นการเจรจาเพื่อจัดทำซีโอซี โดยมอบให้เจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนเจรจากับจีน เพื่อผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการที่ทะเลจีนใต้จะเป็นทะเลแห่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความรุ่งเรือง โดยเน้นย้ำความสำคัญของการดำเนินมาตรการเพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและเพื่อป้องกันปัญหาด้วยการสร้างความเชื่อมั่นและไว้ใจระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

สำหรับพัฒนาการในคาบสมุทรเกาหลีรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนแสดงความวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อการเพิ่มขึ้นของความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี รวมถึงกรณีที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลและนิวเคลียร์ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งพัฒนาการดังกล่าวถือเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงต่อสันติภาพและความั่นคงทั้งในและนอกภูมิภาค ที่ประชุมเรียกร้องให้เกาหลีเหนือดำเนินการตามพันธกรณีที่มีต่อข้อมติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของสหประชาชาติ โดยเน้นย้ำการสนับสนุนให้คาบสมุทรเกาหลีเป็นพื้นที่ปลอดนิวเคลียร์ พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้น หันกลับสู้โต๊ะเจรจาเพื่อลดความตึงเครียด และสร้างเงื่อนไขที่เอื้อให้เกิดสันติภาพและเสถียรภาพต่อไป

แถลงการณ์ดังกล่าวซึ่งถือเป็นการสรุปภาพรวมของที่ประชุมครั้งนี้มีความยาวถึง 46 หน้า โดยพูดถึงพัฒนาการด้านต่างๆ ของความร่วมมือในอาเซียน อาทิ การสร้างความเชื่อมโยงในอาเซียน การส่งเสริมและสนับสนุนซึ่งกันและกันระหว่างวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2568 และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ 2573

รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนยังได้เน้นย้ำถึงพันธกรณีที่มีต่อความร่วมมือในกรอบพหุภาคีและภูมิภาคว่าเป็นพื้นฐานและกรอบการทำงานที่สำคัญที่จะช่วยส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคงมั่งคั่งและความก้าวหน้าทั้งในภูมิภาคและระดับโลก อาเซียนเชื่อมั่นว่าความเข้มแข็งและคุณค่าของการรวมตัวกันจะทำให้เกิดผลประโยชน์กับทุกฝ่ายและสร้างความเคารพซึ่งกันและกัน