ตำรวจรับได้!’บุญสร้าง’หัวโต๊ะปฎิรูป ยก 36 อรหันต์ คุณธรรมสูง มีความรู้ เชื่อไร้แทรกแซง มั่นใจแก้ปัญหาแต่งตั้งได้

https://www.matichon.co.th/news/

เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 5 กรกฎาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษก ตร. กล่าวถึงคณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) 36 ราย โดยมี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน ว่า ขั้นตอนหลังจากนี้คณะกรรมการจะต้องไปดำเนินการในส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทันกรอบระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งเหลืออีกประมาณ 9 เดือน โดยคณะกรรมการจะต้องกำหนดโครงสร้างตำรวจว่าจะเป็นอย่างไร การบริหารงานบุคคลจะเป็นอย่างไร และการพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายจะเป็นอย่างไร เพื่อลบข้อครหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น คิดว่าน่าจะทันกรอบระยะเวลา ส่วนผลการปฏิรูปจะออกมาเป็นรูปแบบไหนต้องรอดู ซึ่งในการปฏิรูปก็มีหลายโมเดลหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับว่าแบบไหนเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประธานคณะกรรมการมาจากทหาร จากกองทัพ เป็นการแทรกแซงการปฏิรูปหรือไม่ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่อยากให้คิดอย่างนั้นเพราะท่านเป็นคนมีความรู้ความสามารถ ไม่มีการแทรกแซงแน่นอน อีกทั้งยังมีกรรมการท่านอื่นๆ รวมอยู่ด้วย ขอให้มั่นใจในคณะปฏิรูปครั้งนี้ว่าสิ่งที่ออกมาจะต้องดีที่สุดในยุคนี้ เรามีความมั่นใจโดยเฉพาะข้อครหาที่ประชาชนมองตำรวจ ทั้งเรื่องการซื้อขายตำแหน่งที่มีการวิพากษ์วิจารณ์จะมีการแก้ไขอย่างไรอุดรูรั่ว อุดช่องว่างอยู่ตรงไหน ก็จะต้องดำเนินการ แต่การซื้อขายตำแหน่งเป็นเพียงการวิพากษ์วิจารณ์ยังไม่มีการดำเนินคดีกับใครและยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีการซื้อขายตำแหน่งจริงหรือไม่ ส่วนกรณีที่จเรตำรวจกำลังสอบสวนข้อเท็จจริงกับ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 ช่วยราชการ ศปก.ตร.ก็ยังไม่มีความชัดเจน อยู่ระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริงและมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่าคณะกรรมการตามรัฐธรรมนูญ มีมาตรการป้องกันการทุจริตให้เกิดความสมบูรณ์มากที่สุด

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีชื่อ นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตแกนนำ กปปส.เป็นกรรมการปฏิรูปตำรวจ ทั้งๆ ที่เป็นผู้ออกมาเปิดเผยข้อมูลการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งตำรวจ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า ถึงแม้นายวิทยาไม่มีรายชื่อเป็นกรรมการ แต่สามารถนำข้อมูลมาเสนอให้กรรมการได้ ไม่มีการตัดโอกาสใดๆ

“คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจทั้ง 36 ท่านเป็นคนมีความรู้ความสามารถ เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญ เป็นอดีตข้าราชการตำรวจที่ทุกคนทุกฝ่ายผู้ใต้บังคับบัญชายอมรับ เป็นผู้มีคุณธรรม หลังจากนี้จะต้องรอดูว่าผลของการปฏิรูปจะออกมาในรูปแบบไหน” รองโฆษก ตร.กล่าว และว่า ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานด้านการปฏิรูปมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้วโดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งมีข้อสรุปในการทำงานทั้ง 6 ด้านส่งให้ทางรัฐบาลเพื่อนำไปปฏิรูปเชื่อว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อคณะปฏิรูปที่จะนำไปพิจารณา โดย 6 ด้านประกอบด้วย 1.การถ่ายโอนภารกิจ 2.การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ 3.การปรับปรุงค่าตอบแทนสวัสดิการ 4.เส้นทางการเจริญเติบโต 5.การปฏิรูปงานสอบสวนและการบังคับใช้กฎหมาย 6.การนำเทคโลยีมาใช้

เมื่อถามว่า มีผู้มีความรู้ความสามารถ ได้รับการยอมรับหลายคน ไม่ได้ถูกเสนอชื่อเข้ามาเป็นกรรมการปฏิรูปตำรวจ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ยืนยันว่าการตั้งคณะกรรมการดังกล่าวเป็นไปตามความรู้ความสามารถและก็ได้มีการคัดกรองดีแล้ว เพื่อให้ผลของการปฏิรูปเกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีคณะกรรมการบางรายไม่มีประสบการณ์ความรู้ความสามารถโดยตรง เกี่ยวกับเรื่องปฏิรูปนั้น ตนไม่อยากให้คิดอย่างนั้นทุกคนมีประสบการณ์จากการเป็นตำรวจอยู่แล้ว จะมีความมั่นใจได้อย่างไรว่าคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์จะมีความรู้ความสามารถเหนือกว่าคณะกรรมการทั้ง 36 ท่าน เราต้องเชื่อมั่นในคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นมา ว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถในวงการตำรวจ