เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้จัดประชุมการกำหนดมาตรการและแนวทางป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน จากการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.เป็นประธาน พร้อมด้วยตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ บริษัท ชิโน-ไทย เอนจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกองบังคับการตำรวจจราจน (บก.จร.)

พล.ต.อัศวิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุระหว่างการก่อสร้าง ส่วนใหญ่เกิดจากความประมาท เช่น เครนหล่นลงมาทับรถยนต์ของประชาชน ทับผู้รับเหมาเสียชีวิต กีดขวางการจราจรหลังจากนี้ หากมีเหตุการดังกล่าวเกิดขึ้น หรือมีวัสดุก่อสร้างของโครงการรถไฟฟ้าสายใด ร่วงหล่นลงมาโดนบ้านเรือน ทรัพย์สินของประชาชน กทม.จะสั่งระงับการก่อสร้างชั่วคราว ตั้งแต่ 3 วัน 5 วันและ 7 วัน แล้วแต่กรณี โดยคำสั่งระงับการก่อสร้างนี้จะไม่รวมอยู่ในเงื่อนไขการขอขยายสัญญาก่อสร้าง

“แม้ว่าอุบัติเหตุ จะทำให้คนเป็นแผลแค่สะกิดเล็บ เลือดออกนิดเดียว ก็ต้องหยุดอย่างน้อย 3 วัน หยุดก่อสร้างไปเลย เพราะเราจะต้องสร้างมาตรฐานตรงนี้ให้ได้” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว และว่า สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้าง เช่น ถนน ท่อระบายน้ำของกทม. จะมีแนวทางแก้ไขอย่างไรนั้น เบื้องต้น ทราบว่าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าได้ทำท่อระบายของกทม.ชำรุด118จุด ผู้รับเหมาซ่อมแซมไปแล้ว 9 จุด ที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซม

เมื่อถามว่าทาง รฟท. และ รฟม. ได้ชี้แจงถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการชี้แจงแล้ว จะต้องมีการตรวจสอบ โดยวิศวกรที่คุมงานก็รับปากแล้วว่าจะกำชับให้ มีการระมัดระวังมากกว่านี้ สาเหตุหลักของอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความประมาทประมาณร้อยละ 70 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 30 เกิดจากอุปกรณ์ที่เก่าและเสื่อมคุณภาพ