คนร้ายลอบบึ้มหลังหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 44 อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี จนท.ทหารสังกัดหน่วยเฉพาะกิจ จ.ปัตตานี 25 เสียชีวิต 6 นาย บาดเจ็บสาหัสอีก 4 นาย

เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณด้านหลังหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 44 ต.พรุทุ่งน้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เบื้องต้น แรงระเบิดส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดหน่วยเฉพาะกิจ จ.ปัตตานี 25 เสียชีวิต 6 นาย และได้รับบาดเจ็บอีก 4 นาย

ทราบชื่อเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ปัตตานี 25 ที่เสียชีวิต 6 นาย ประกอบด้วย

          1. จ.ส.อ. สมปราถ ศรีวาจา
2. พลทหาร  อภิชาต หอยแก้ว
3. พลทหาร อดิศักดิ์ ฤทธิเดช
4. พลทหาร กิตติพงศ์ บ่อหนา
5. พลทหาร เจษฏา รุ่งวงศ์
6.พลทหาร วีรภูมิ บุบผา

ผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ถูกนำส่งโรงพยาบาลทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ประกอบด้วย

          1. ส.อ. วุฒิพงค์ เรืองพุทธ
2. ส.ท. นรินทร์ อึ่งฮง
3. พลทหาร วุฒิชัย ณ พัทลุง
4. พลทหาร เจ๊ะอามี หะยีบูละ

จากการสอบสวนทราบว่า เหตุเกิดขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวนำกำลังเพื่อทำการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ ได้เกิดระเบิดขึ้นทำให้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่

ด้าน พล.ท. ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีที่มาที่ไปอย่างไร เบื้องต้นมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการลอบกัด และขี้ขลาด ซึ่งสิ่งที่คนร้ายเชื่อว่าการก่อเหตุในช่วงเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ จะเป็นการสร้างบุญนั้น ถือว่าไม่เป็นไปตามหลักธรรมคำสอนของผู้นำศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง

ทั้งนี้ ตนจะไม่ประณามอะไรคนร้าย เพราะทหารไม่ได้ต่อสู้หรือเป็นคู่ขัดแย้งกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ และเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน

อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยคงจะไม่ปรับปรับเปลี่ยนมาตรการอะไรเพิ่มเติมเนื่องจากระบบเดิมนั้นดีอยู่แล้ว

ขณะที่ พ.อ. ปราโมทย์ พรหมอินทร์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าคนร้ายได้ลอบใช้ระเบิดชนิดแสวงเครื่อง โดยการนำมาฝังไว้ใต้ดิน ในบริเวณที่เจ้าหน้าที่ทหารชุดดังกล่าวผ่าน สำหรับกำลังพลชุดนี้เป็นชุดที่ปฏิบัติงานเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยของชาวบ้าน

ภาพจาก ทวิตเตอร์ Nalinee_PLE, Mongkhol Nilanan

ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN