บิ๊กตู่ เยือนเมืองจันท์ ลั่นประชารัฐ ปชช.ต้องมาก่อน ขอชาวบ้านสัญญา อย่าให้ใครมาหลอกอีก

https://www.matichon.co.th/news/

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 7 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนนโยบาลของรัฐบาลจ.จันทรบุรี โดยได้เดินทางโดยรถตู้โฟลก์ ทะเบียน นก 1111 จันทบุรี มายังสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏจำกัด อ.เขาคิชฌชกูฏ จ.จันทบุรี โดยมีนายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ข้าราชการ และประชาชนกว่า 1,000 คนให้การต้อนรับท่ามกลางการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจในการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีการติดตั้งเครื่องสแกนวัตถุต้องสงสัย ตรวจกระเป๋า และยึดร่มไว้เป็นการชั่วคราว ท่ามกลางฝนตกเป็นระยะๆ

จากนั้นนายกฯได้รับฟังรายงานการส่งเสริมการเกษตรในรูแบบแปลงใหญ่และการบริหารจัดการผลไม้ และเป็นประธานปัจจัยการรเกษตรเพื่อมอบเงินสนับสนุนสินเชื่อเงินทุนเพื่อพัฒนาการเกษตรแบบแปลงใหญ่และเครื่องจักรกลการเกษตรภายใต้โครงการ Motor pool แก่แปลงใหญ่โคนมสอยดาวจำนวน 10 ล้านบาท และสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการรับซื้อผลไม้ให้สหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏจำนวน 25 ล้านบาท พร้อมมอบสถานีสูบน้ำบ้านท่าอุดมเพื่อสนับสนุนพื้นที่แปลงใหญ่ 1 โครงการ ที่สหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัด ต.ชากไทย อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ได้นำรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงมหาดไทยมารับฟังปัญหาที่แท้จริง ส่วนนายกฯดูนโยบายกติกาทั้งหมด ซึ่งได้เกิดความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนยกระดับคุณภาพผลผลิตอย่างยั่งยืน โดยการเกษตรต้องดูแลทั้งระบบ การผลิต การตลาด การแปรรูป ซึ่งต้องดูให้ครบวงจรทั้งหมดต้องขับเคลื่อนตามแนวทางที่รัฐบาลได้วางไว้ ซึ่งมุ่งหวังดูแลคน 70 ล้านคน แต่หากคิดกันแค่เรื่องเงินรัฐบาลก็ไม่รู้จะเอาที่ไหนมาเติมให้ จึงขอให้เข้าใจการบริหารราชการของรัฐบาลด้วย

“รัฐบาลไม่ใช่แค่ยกระดับแค่ราคาเท่านั้น เราต้องผลิตสินค้าให้มีคุณภาพราคาจะได้ปรับสูงขึ้นไปด้วย โดยรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณลงพื้นที่อย่างทั่วถึง ต่างจากก่อนหน้านี้ที่อนุมัติงบจะประมาณกระจุกตัว ไม่กระจายทั่วถึงทั้งประเทศ สำหรับประชาชนที่ยังไม่มีพื้นที่ทำกิน รัฐบาลก็จะจัดสรรให้ หากยังถือครองที่ดินผิดกฎหมายอยู่ก็ต้องทำให้เข้ามาอยู่ในระบบ ขอให้สบายใจรัฐบาลไม่อยากรังแกคนจนอยู่แล้ว แม้จะมีคนพยายามไปพูดว่ารัฐบาลหวังประโยชน์ มันจะหวังประโยชน์ตรงไหน รัฐบาลเดินตามแนวทางประชารัฐ ประชาชนต้องมาก่อน โดยให้ผู้ว่าราชการมีอำนาจในการบริการงบประมาณ ไม่ใช่ให้ใครมาสั่งอีก โดย 3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง บิดเบือนสูง แต่ผมไม่ไปทะเลาะด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวแนะนำเกษตรกรให้สามารถเรื่องราวของผลผลิต เพื่อเพิ่มมูลค่าและตรวจสอบคุณภาพผลผลิต เพราะนานาประเทศมีระบบตรวจสอบที่มาของการผลิต เพราะโลกมีกติกาดูแลอยู่ ดังนั้นเราร้องเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับโลกาภิวัฒน์ ด้วยการจับกลุ่มสร้างเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อให้เข้มแข็งไปด้วยกัน และวันข้างหน้าหากมีคนคิดให้ทุเรียนมีน้ำตาลน้อย แต่รสชาติเหมือนเดิมก็จะเพิ่มการขายได้ เราต้องพัฒนาผลผลิตและควบคุมคุณภาพการเกษตรให้ได้ และต้องแก้ปัญหาให้ได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่เรียกร้องให้ปลดหนี้สิ้นต่างๆ รัฐบาลคงทำทั้งหมด จึงต้องมีโครงการประนอมหนี้แต่หลังจากรัฐบาลให้ลงทะเบียนก็มีประชาชนไม่เข้าหลักเกณฑ์คุณสมบัติที่กำหนดเยอะ ทุกคนจึงต่องสุจริตในการมาขึ้นบัญชีเพราะหากตรวจสอบเจอก็จะมีความผิด เพราะเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติอย่างเท่าเทียม

“ผมเองก็ต้องแก้ตัวเองเพราะเป็นคนอารมณ์ร้อน เพราะเป็นทหาร แต่วันนี้มาทำการเมืองไม่ได้มุ่งหวังอะไรทั้งสิ้น มุ่งหวังเพื่อแก้ไขปัญหาให้พวกท่าน คนเป็นหนี้ถือว่ามีเกียรติ แต่ไม่ถ้าไม่ใช่หนี้ก็เสียเกียรติ ทุกคนอาจมีหนี้ ผมเองก็เคยมีหนี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯกล่าวว่า วันนี้อยากพูดให้เห็นว่าพวกเรามีความจริงใจ ทหาร ตำรวจ ถือเป็นความรับผิดชอบต้องช่วยเหลือประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าเพื่อปวงชนชาวไทย อย่าให้ใครมาชักจูงท่านไปทำให้เกิดวุ่นวาย เสียเวลาทำกินเปล่าๆ อันตรายด้วย วันหน้าต้องไม่เกิดขึ้น สัญญาไหม ใครสัญญายกมือ อย่าให้เขาหลอกเอาอีก หลอกให้ตายก็อย่าไปอีก เสร็จแล้วก็เดือดร้อนไปหมด เดี๋ยววันนี้ตนก็โดนอีกหาว่าไปอย่างนี้อย่างนั้น ตนไม่ได้ว่าใครเลย ใครไม่ดีก็รับไปแล้วกัน ตนก็ต้องพูดอย่างนี้ เพราะตนเข้ามาแบบนี้ รู้ดีว่าเข้ามาอย่างไร ดังนั้นตนต้องเอาสิ่งที่เป็นวิกฤติของตนเป็นโอกาสให้ท่าน ไม่ใช่เอาวิกฤติมาทำให้เกิดวิกฤติมากกว่าเดิม ถ้าทำแบบเดิมๆไม่คิดอะไรใหม่ๆ ไม่ไปดูทั้งระบบ ให้เป็นกลุ่มๆประเทศไทยก็ติดอยู่อย่างนี้ เราต้องดูแลทั้งหมด รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย จังหวัด ต้องปรับตัวเองทั้งหมด อย่างนี้ถึงเรียกว่าการปฏิรูปประเทศถึงจะแก้ไขปัญหาได้ ไม่ใช่จะเรียกร้องกระจายอำนาจอย่างเดียว ต้องคิดว่าเราจะแก้ไขปัญหาอย่างไรแล้วถึงจะกลับมาทำโครงการ ไม่ใช่เอาโครงการเป็นตัวตั้งแล้วใช้งบประมาณจนหมด ตองแบ่งสันปันส่วนให้ถูก และวันที่ 8 มิถุนายนตนจะแถลงเรื่องงบประมาณ

นายกฯ ​กล่าวว่า เรายังจะขัดแย้งกันทำไม ตนไม่ได้ต้องการคะแนนเสียง ใครจะรักตนหรือเกลียด ตนก็ทำให้หมด ไม่ใช่ว่ายิ่งเกลียดตนยิ่งไม่ให้ แต่ยิ่งเกลียดตนยิ่งต้องให้ เพราะเขาไม่เข้าใจ เพราะเขาไม่เคยได้ เพราะบิดเบือนกันจนเพี้ยนไปหมด อยากพูดกันอย่างนี้มีใครพูดไหม ทำอะไรก็กลัวไปหมด ทำอะไรก็ไม่กล้า ทำให้ความเท่าเทียมกฎหมายไม่มี ทำให้มีคนได้ประโยชน์กับเสียประโยชน์ การค้าขายมีผิดกฎหมาย ถูกกฎหมาย คนถูกกฎหมายก็ไม่มีโอกาสไปค้าขาย

จากนั้นเวลา 13.20 น. นายกฯพร้อมคณะเดินทางมายังงาน “มหานครผลไม้ FRUITPITAL FAIR 2017” ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี เพื่อเยี่ยมชมนิทรรศการผลไม้ดีประจำจังหวัดและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทุเรียน มังคุด ลองกอง อาทิ ไวน์มังคุด ถ่านเปลือกมังคุด ไอศกรีมทุเรียน รวมทั้งเยี่ยมชมทุเรียนพันธุ์หายาก อาทิ พันธุ์ชายมะไฟ พันธุ์พวงมณี เป็นต้น ทั้งนี้นายกฯได้ถ่ายรูปร่วมกับตัวแทนนักเรียนโรงเรียนต่างๆ ที่มารอต้อนรับ

จากนั้นนายกฯได้มอบใบหุ้นบริษัทประชารัฐรักสามัคคีจันทบุรีวิสาหกิจเพื่อสังคม ให้กับภาคส่วนต่างๆที่สนับสนุน พร้อมกล่าวว่า ขอให้ภาคราชการช่วยอำนวยความสะดวก และขจัดปัญหาด้านต่างๆ เราจะต้องเป็นมหาอำนาจทางด้านผลไม้โลกให้ได้ ถึงแม้เราไม่สามารถเป็นมหาอำนาจทางกำลังทหาร และจะต้องร่วมกันสร้างความเข้มแข็ง ซึ่งรัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหา ทุกอย่างจึงมีโรดแมป มียุทธศาสตร์ชาติ อีก 20 ปีเราจะเป็นมหาอำนาจทางอาหารให้ได้ จากนั้นนายกฯได้ถามผู้ร่วมงานว่า “มีอะไรจะถามผมไหม จะถามผม 4 คำถามหรือเปล่า ผมถามให้ทุกคนเรียนรู้ และคิดเอาเอง” อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ นายกฯได้พบปะพูดคุยกับผู้ค้าภายในงาน และขอถ่ายรูปกับนางงามมหานครผลไม้ พร้อมพูดว่า “เป็นคนสวยแล้วอย่าลืมเป็นคนดีด้วยนะ”