https://www.matichon.co.th/news/
โตเกียว ญี่ปุ่น: นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังพบภาคเอกชนของญี่ปุ่น 4 ราย ในอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ เทคโนโลยีชีวภาพ เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ และยานยนต์ ในระหว่างการเยือนประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 5-8 มิถุนายน ว่ามีโอกาสสูงที่ทุกบริษัทจะมาลงทุนในไทย ซึ่งมี 3 บริษัทยังไม่เคยเข้ามาลงทุนในไทยเลย ส่วนอีกบริษัทเตรียมขยายการผลิตด้านเครื่องมือแพทย์ โดยแต่ละรายก็แสดงความสนใจในการลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี ซึ่งทางกระทรวงอุตสาหกรรมและคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะหารือในรายละเอียดต่อไป นอกจากนี้ จะยังได้หารือกับบริษัท ฮิตาชิ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรางรถไฟ และหารือกับนายฮิโรชิ โอกาวา ผู้ว่าราชการจังหวัดฟุคุโอกะ โดยเอกชนญี่ปุ่นที่ได้หารือกันประกอบด้วย 1.บริษัท Kyocera Corporation ผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์การแพทย์ที่ทำด้วย Advance materials) 2.บริษัท Spiber Inc. เป็นธุรกิจสตาร์ตอัพ ผลิต bio-based advanced material) 3. บริษัท Kuraray Co., Ltd., Sumitomo Corporation และ PTT Global Chemical Public Company Limited ผู้ผลิตเคมีชนิดพิเศษ Specialty Chemicals) และ 4. บริษัท Subaru Corporation ผู้ผลิตรถยนต์
นายสมคิดกล่าวว่า ทางญี่ปุ่นได้ยื่นข้อเสนอขอขยายเส้นทางรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ที่ไทยเตรียมพัฒนาจากโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ระยอง เชื่อมต่อ 3 สนามบิน (สนามบินอู่ตะเภา-สนามบินสุวรรณภูมิ-สนามบินดอนเมือง) และเชื่อมต่อพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งทางญี่ปุ่นยื่นข้อเสนอขอขยายเส้นทางมาสิ้นสุดถึงสถานีอยุธยา เนื่องจากเป็นพื้นที่เขตอุตสาหกรรมที่ญี่ปุ่นลงทุนหลายแห่ง หากมีการพัฒนาเส้นทางคมนาคมจากพื้นที่อีอีซีเข้ามาจะเพิ่มโอกาสด้านการลงทุน
“ ขณะนี้ได้มอบหมายให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไปศึกษาความคุ้มค่ากับโครงการหากจะต้องขยาย ทั้งงบการลงทุน ความคุ้มค่า และรายละเอียดต่างๆ ซึ่งทางญี่ปุ่นยังระบุถึงความพร้อมในการลงทุน เนื่องจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือไจก้า พร้อมที่จะสนับสนุนเงินกู้หากไทยสนใจดำเนินการก่อสร้าง “ นายสมคิดกล่าว