เอกชนกังวลผลกระทบจีเอสพี ตั้งคำถามสหรัฐเอาคืนแบน3สาร

https://www.matichon.co.th/economy/news

เอกชนกังวลผลกระทบจีเอสพี ตั้งคำถามสหรัฐเอาคืนแบน3สาร

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กรณีสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ประกาศว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศระงับการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (จีเอสพี) กับสินค้าไทย จะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยพอสมควร เนื่องจากผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ของไทย มีการส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งจำนวนมากไปยังสหรัฐอเมริกา ดังนั้น ผู้ประกอบการกลุ่มนี้จึงจะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก

นายเกรียงไกร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ภายใน 6 เดือน ระหว่างนี้จึงเป็นช่วงที่มีความอ่อนไหวอย่างมาก ทั้งประกอบกับสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่า จึงคาดว่า อาจจะหาตลาดอื่นที่จะเข้ามาทดแทนได้ไม่ทันการ รัฐบาลจึงต้องเร่งแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตถึงมาตรการดังกล่าวที่ออกมาในช่วงที่คาบเกี่ยวกับกรณีการแบน 3 สารเคมี พาราควอท-ครอร์ไพริฟอส-ไกลโฟเซต ที่สหรัฐออกมาคัดค้านการแบนไกลโฟเซต จึงไม่แน่ใจว่า กรณีนี้เกี่ยวข้องกับการเมือง ที่ต้องมีการเจรจา ต่อรอง เพื่อแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่างหรือไม่ ดังนั้น ควรเร่งให้มีการเจรจากับสหรัฐ เพื่อทราบถึงปัญหาที่แท้จริง

“ที่ผ่านมารัฐบาลมีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาในหลายเรื่อง อาทิ การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู) จนสามารถปลดธงแดงออกได้ สำหรับเรื่องนี้คิดว่า หากเป็นปัญหาจากการถูกกล่าวหาก็ต้องชี้แจง เพื่อให้เกิดความเข้าใจ นำมาสู่การแก้ไขปรับปรุง แต่ต้องรับฟังก่อนว่า ปัญหาที่แท้จริงคืออะไร ที่กล่าวหามีมูลความจริงหรือไม่ เข้าใจผิดหรือไม่ สื่อสารกันอย่างไร แต่หากประเด็นเหล่านี้มีมูลที่เป็นความจริงเชื่อว่า รัฐบาลจะเร่งแก้ไข ซึ่งที่ผ่านมา ปัญหาใหญ่ๆ ยังสามารถสะสางได้ ฉะนั้น เรื่องนี้หากตั้งใจ สามารถแก้ไขได้ไม่ยาก โดยกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ควรเร่งให้มีการเจรจากับสหรัฐ เพื่อแบ่งเบาผลกระทบด้านการส่งออกให้เบาบางลง” นายเกรียงไกรกล่าว