https://www.matichon.co.th/news/
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ สน.วังทองหลาง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ(ผบก.สปพ.) พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4(ผบก.น.4) พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว(รองผบก.ทท.) พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า รองผบก.น.4 พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจฯ พ.ต.อ.ธรรมนูญ บุญเรือง ผกก.สน.วังทองหลาง และพ.ต.ท.จุมพล สินศิริพงษ์ สว.สส. ร่วมกันแถลงจับกุมนายพรชัย ติยะวนิช นายสมดุล ศรีดุรงฤทธิ์ และนายชินกฤษ ธันยมนย์ ในข้อหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม พร้อมรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเหลือง ทะเบียน สฉ 5069 กรุงเทพมหานคร เลขเครื่องยนต์ 61725160 เลขตัวถังรถ WPOZZZ99Z7S791630 ที่มีลักษณะสวมทะเบียน โดยตรวจยึดได้บริเวณลานจอดรถของร้านสะดวกซื้อโลตัส เอ็กซ์เพรส สาขาทาวน์อินทาวน์ แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง
พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2559 นายภูมิสิทธิ์ อัครณีวงค์ (เสียชีวิต)ติดต่อขายรถยี่ห้อปอร์เช่ สีเหลือง ทะเบียน สฉ 5069 กรุงเทพมหานคร ผู้ครอบครองชื่อนายทวีศักดิ์ ศรีคุรุวาฬ ให้กับนายพรชัย ติยะวนิช ในราคา 5 ล้านบาท โดยนายพรชัย วางเงินดาวน์ไว้เป็นเงิน 1.5 ล้านบาท โดยเงินที่เหลือจะชำระกันหลังจากที่นายภูมิสิทธิ์ นำเล่มทะเบียนตัวจริงมาให้ หลังจากนั้นนายพรชัย จึงใช้รถคันดังกล่าวตามปกติ โดยพยายามติดต่อสอบถามทางนายภูมิสิทธิ์ เป็นระยะๆ จนมาทราบภายหลังว่านายภูมิสิทธิ์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2559 จากนั้นจึงได้พยายามติดต่อผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อชำระเงินส่วนที่เหลือเพื่อจะได้เล่มทะเบียนตัวจริงมาเก็บรักษาไว้ ในระหว่างนั้นได้ใช้รถปอร์เช่ ตามปกติ กระทั่งมาทราบว่าเจ้าหน้าที่ ศปจร.ตร. ตรวจยึดรถคันดังกล่าวไปไว้ที่ สน.พหลโยธิน เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เนื่องจากนายพิสิษฐ์ จุลวงษ์ ขอยืมไปใช้ จากนั้นนายพรชัย จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเพื่อติดต่อขอรถคืน โดยได้นำสำเนาทะเบียนรถให้นายพิสิษฐ์ ไปแสดงและทำบันทึกขอรับรถคืนมาเก็บรักษาไว้ระหว่างดำเนินคดี
พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวต่อว่า ต่อมานายพรชัย เห็นว่ารถคันดังกล่าวน่าจะมีปัญหาทางทะเบียนที่ไม่ถูกต้อง จึงไม่อยากเก็บรถไว้จึงประสาน น.ท.สุทัศน์ วันทะเวก ให้ช่วยหาคนซื้อรถในราคา 1 ล้านบาท หากหาได้จะให้ค่านายหน้าหัวละ 30,000 บาท น.ท.สุทัศน์ จึงติดต่อไปยังนายสมดุล ศรีดุรงฤทธิ์ เพื่อเสนอขายรถให้ นายสมดุล เห็นว่ารถราคาถูกจึงได้ชักชวนนายชินกฤษ ธันยมนย์ ให้ร่วมหารกันคนละครึ่ง ซื้อรถคันดังกล่าวในราคา 1.1 ล้านบาท ต่อมาวันที่ 9 พฤษภาคม นายพรชัยนำรถมาส่งมอบให้นายสมดุล และนายชินกฤษ ย่านพระรามเก้า และได้ชำระเงินกันเรียบร้อย จากนั้นทั้งสองได้นำรถไปขายต่อในราคา 2.3 ล้านบาท และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้ดังกล่าว
รายงานข่าวจากชุดสืบสวนแจ้งว่า จากแนวทางการสืบสวนพบว่าการกระทำความผิดครั้งนี้มีลักษณะร่วมกันทำเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันชัดเจน ในขั้นต้นมีผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด 4 คน จับได้แล้ว 3 คน อีกรายที่เหลือเป็นที่เจ้าหน้าที่ทหารยศนาวาอากาศโท สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย คือ น.ท.สุทัศน์ วันทะเวก เบื้องต้นน.ท.สุทัศน์ประสานนายทหารพระธรรมนูญเพื่อติดต่อขอเข้ามอบตัวในวันที่ 25 พฤษภาคม เวลา 10.00 น. ที่สน.วังทองหลาง
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นอกจากนี้หลังพบข้อมูลว่ารถคันดังกล่าวเคยถูกทาง ศปจร.น ตรวจยึดได้ ก่อนนำรถไปให้ศปจร.ตร.เก็บรักษาตามระเบียบ กระทั่งกลุ่มคนร้ายทำทีขอนำรถไปเก็บรักษาไว้เอง ในขั้นตอนนี้ทางชุดทำงานของพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ได้ดำเนินการตรวจสอบขั้นตอนการเก็บรักษาและส่งมอบรถอย่างละเอียด กระทั่งพบช่องโหว่ที่ส่อไปในทางพิรุธ จึงรายงานไปยังพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ทราบ ก่อนที่ทางผบ.ตร.สั่งการให้คลี่คลายคดีนี้ โดยเบื้องต้นได้เรียกชุดจับกุมที่ทำการตรวจยึดรถมาซักถามและสอบปากคำพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ พ.ต.อ. ชื่อย่อ อ. สังกัด บช.ภ.1 และนายตำรวจชั้นประทวน ยศดาบตำรวจ น่าจะมีส่วนรู้เห็น ทั้งหมดอยู่ระหว่างการสืบสวน หากพบการกระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีตามมาตรา 157 เบื้องต้นชุดสอบสวนได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดไปแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานและคำให้การเพื่อตรวจสอบว่ามีใครเกี่ยวข้องอีกหรือไม่