นายมุนเป็นผู้มีแนวคิดสายกลางประกาศเปลี่ยนแปลงนโยบายต่อเกาหลีเหนือโดยเน้นการเจรจาควบคู่ไปกับการดำเนินมาตรการคว่ำบาตร การก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของนายมุนถูกมองว่าจะส่งผลกระทบต่อท่าทีและความสัมพันธ์ของเกาหลีเหนือต่อสหรัฐผลเอ็กซิทโพลหลังปิดหน่วยเลือกตั้งในเกาหลีใต้ชี้ว่านายมุน แจ อิน จากพรรคประชาธิปไตยเกาหลี อดีตทนายความด้านสิทธิมนุษยชน และอดีตคู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ของน.ส.ปาร์ค กึน เฮ เมื่อปี 2555 คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยคะแนนถึง 41.4 เปอร์เซ็นต์ ตามด้วยนายฮง จุน พโย ผู้สมัครจากพรรคเสรีภาพเกาหลี ที่ได้ไป 23.3 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่นายอัน ซอล ซู อดีตเจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี อยู่ในลำดับสามที่ 21.8 เปอร์เซ็นต์
มุนระบุว่าเขาจะเป็นผู้ขับเคลื่อนประเทศออกจากยุคสมัยของข่าวอื้อฉาวของน.ส.ปาร์ค โดยกล่าวระหว่างไปลงคะแนนเสียงว่าไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเขาและพรรคของเขา แต่เชื่อว่าประชาชนเกาหลีใต้ก็ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลอย่างมากด้วยเช่นกัน
แม้คาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ออกมาใช้สิทธิมากเป็นประวัติการณ์เพราะประชาชนถูกกระตุ้นด้วยความโกรธเคืองต่อการทุจริตคอร์รัปชั่นและการใช้อำนาจในทางมิชอบของรัฐบาล และยิ่งซ้ำเติมด้วยความสิ้นหวังในเรื่องงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำ แต่ก่อนที่หน่วยเลือกตั้งจะปิดทำการ 1 ชั่วโมง ยอดผู้ออกมาใช้สิทธิอยู่ที่ 75.1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งน้อยกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อ 5 ปีก่อน