เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มารดาเหยื่อค้ามนุษย์ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนและทนายความ เข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เพื่อให้ปากคำและนำหลักฐานเกี่ยวกับคดีค้ามนุษย์เพิ่มเติม

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา ศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้อนุมัติหมายจับ ด.ต.ยุทธชัย ทองชาติ ผู้บังคับหมู่สถานีตำรวจภูธรน้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน ช่วยราชการตำรวจภูธร จ.แพร่ และพวกคือ น.ส.เมย์ และฟ้า ฐานร่วมกันเป็นธุระจัดหาค้าประเวณี สมคบกันค้ามนุษย์เป็นธุระจัดหาค้าประเวณี ต่อมาวันที่ 25 เมษายน ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.) ได้ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสามรายในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ด้วย ขณะที่ พล.ต.ต.ปรีชา วิมลชัยจิต ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ด.ต.ยุทธชัยพร้อมมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว โดยในวันนี้จะควบคุมตัวทั้ง 3 คน ซึ่งถูกจับกุมได้แล้วมายัง กทม. เพื่อส่งตัวให้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ดำเนินคดีโดยจะส่งมอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในเย็นวันนี้

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตำรวจที่ร่วมเป็นกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่มีกล่าวหา ด.ต.ยุทธชัยก่อนหน้านี้ แต่กลับสั่งยุติเรื่องโดยไม่มีเหตุอันควร โดยจะต้องสืบสวนข้อเท็จจริงตั้งแต่ระดับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้กำกับการสืบสวนกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจจังหวัดแม่ฮ่องสอน สารวัตร สภ.น้ำเพียงดิน ฯลฯ โดยมองว่าเหตุการณ์นี้นำมาสู่การออกหมายจับในข้อหาค้ามนุษย์แต่กลับยุติเรื่อง สะท้อนให้เห็นว่าการสืบสวนข้อเท็จจริงในตอนนั้นปล่อยปละละเลยหรือไม่ ทั้งนี้เป็นการตั้งคณะกรรมการสืบสวนโดยอ้างอิงตามคำสั่งกรมตำรวจที่ 1212/2537 ฐานเป็นผู้บังคับบัญชาแต่ปล่อยปละละเลยผู้ใต้บังคับบัญชาในปกครอง ทั้งนี้สั่งการไปด้วยว่าหากการสืบสวนข้อเท็จจริงพาดพิงไปถึงอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหรืออดีตผู้ดำรงตำแหน่งใดๆ ที่เกี่ยวข้องก็ต้องสั่งดำเนินการทั้งหมด

ด้านมารดาของเหยื่อค้ามนุษย์เปิดเผยว่า ต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และขอเรียกร้องให้ตำรวจประสานงานเรื่องคุ้มครองพยาน เบื้องต้นพอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมโดยจากการพูดคุยกับกลุ่มเด็กที่เป็นเหยื่อ ให้ข้อมูลว่าเคยถูกแม่เล้ากลุ่มนี้นำไปค้าประเวณีกับข้าราชการระดับสูง โดยอ้างว่าเป็นถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เด็กได้รับเงินค่าขายบริการเพียง 1,000 บาทเท่านั้น เด็กยังอ้างด้วยว่ายังมีตำรวจทราบว่าชื่ออาร์ตซึ่งตรงกับภาพที่ตำรวจนำมาให้ดู และมีสองคนเป็นรองผู้กำกับการในพื้นที่ ซึ่งตรงกับภาพที่ตำรวจให้ดูเช่นกัน และอีกคนเป็นสิบเวรหน้าห้อง ควบคุมผู้ต้องหาในโรงพักแห่งหนึ่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเด็กยังเล่าว่าบางครั้งกลุ่มผู้ซื้อบริการบังคับให้เสพยาและรุมโทรม และบอกว่าเด็กที่อยู่ในสังกัดของแม่เล้าที่ชื่อฟ้าทุกคนจะมีสัญลักษณ์รอยสักเป็นรูปนกฮูกซึ่งจะเป็นการบ่งบอกว่าอยู่ในสังกัดนี้และเคยถูกส่งขายบริการ

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนพบว่าข้อมูลที่มารดาของเด็กนำมามอบให้วันนี้บางส่วนสอดคล้องกับแนวทางการสืบสวนสอบสวนที่ตำรวจภูธรภาค 5 มีข้อมูลอยู่ ทั้งนี้การกล่าวหาว่าใครเคยซื้อบริการหรือเคยร่วมประเวณี ยังไม่สามารถรับฟังได้ต้องสืบสวนสอบสวนประกอบ เพื่อยืนยันเสียก่อน ใครจะอ้างว่าเคยขายบริการให้ใครก็ได้ จะอ้างว่าเคยขายบริการให้ตนก็ได้ อ้างว่าเอานิ้วมือไปยิงใครตายก็ได้เพราะฉะนั้นคำซัดทอด คำกล่าวหายังฟังไม่ได้จนกว่าจะมีการสืบสวนสอบสวนให้แน่ชัด อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจปฏิบัติราชการรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีในประเด็นที่ว่ามีใครมาร่วมซื้อบริการร่วมประเวณีกับเด็ก เยาวชน สตรีกลุ่มนี้บ้าง โดยจะต้องเชิญข้าราชการระดับสูงมาสอบปากคำหรือไม่ต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจำเป็นหรือไม่ การสืบสวนสอบสวนไปถึงหรือไม่ ยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องประสานไปยังกระทรวงมหาดไทยต้องรอการสอบสวนก่อน

รอง ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า นอกจากจะออกหมายจับดาบตำรวจยุทธชัยและพวกรวม 3 รายแล้วกำลังพิจารณาออกหมายจับตำรวจอีก 3 นายคือ รองผู้กำกับการในสังกัดภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายอาร์ต หรือรองสารวัตรในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน และตำรวจชั้นประทวนอีกหนึ่งนายที่ทำหน้าที่สิบเวรหน้าห้องควบคุมผู้ต้องหา ส่วนจะเป็นข้อหาอะไรขึ้นอยู่กับพฤติการณ์ว่าร่วมประเวณีกับเด็กหรือไม่ ถ้าร่วมประเวณีกับเด็กก็จะมีความผิดมากกว่าร่วมประเวณีกับหญิงทั่วไป

“แม้จะมีการพาดพิงถึงข้าราชการระดับสูงระดับผู้ว่าราชการจังหวัดก็ไม่กลัวคดีนี้ หากพาดพิงถึงใครหรือพบว่าใครร่วมกระทำความผิดจัดให้เหี้ยนตามกบิลบ้านกบิลเมือง และจะต้องประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินด้วยเพราะการค้ามนุษย์เข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน ทั้งนี้แม้ เหตุการณ์จะเกิดขึ้นมานานแล้วแต่ขอให้มั่นใจว่าไม่เกินความสามารถของตำรวจในการหาพยานหลักฐานมัดผู้ที่ร่วมกระทำผิด อย่างไรก็ตามจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าการค้ามนุษย์ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีมานานแล้ว การเข้าไปจัดหาเด็กให้ผู้ใหญ่เป็นเรื่องธรรมดาที่มีมานานแต่ทั้งนี้หากผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการทั้งหมด” รอง ผบ.ตร.กล่าว

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า จะนำเรื่องนี้นำเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้วยเนื่องจากประเด็นการค้ามนุษย์กระทบต่อการจัดอันดับการเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของไทย การจัดอันดับเทียร์

มารดาของเหยื่อค้ามนุษย์ร้องเรียนด้วยว่า ก่อนหน้านี้เคยติดต่อไปยังนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมให้มาช่วยเหลือในคดีนี้ โดยนายอัจฉริยะรับปากแต่ขอให้ตนโอนเงินค่าใช้จ่ายซึ่งรวมถึงค่าที่พักและค่าเดินทางไปก่อนเป็นเงินมากกว่า 15,000 บาท แต่ผ่านมาระยะหนึ่งคดีก็ไม่มีความคืบหน้า แต่นายอัจฉริยะกลับไปให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ผ่านสื่อมวลชน มีการเปิดเผยชื่อเหยื่อซึ่งทำให้เกิดความสับสนและสร้างความเสียหาย จึงมาขอร้องและประกาศว่านายอัจฉริยะไม่มีความยุ่งเกี่ยวกับคดีนี้แล้ว