http://www.matichon.co.th/news
“ในหลวง” ห่วงประชาชนได้รับผลกระทบน้ำท่วม พระราชทานแนวทางแก้ไขปัญหาผ่านนายกฯ – องคมนตรี หลังเข้าเฝ้าส่วนพระองค์ เมื่อวันที่ 12 ม.ค. “นายกฯ” เผยลายพระหัตถ์ ทรงห่วงใยและให้กำลังใจประชาชน รัฐบาลพร้อมน้อมนำกระแสรับสั่ง เร่งปฏิบัติทันที เตรียมสั่งการในที่ประชุม สั่งแก้ปัญหาขวางทางน้ำไหล
เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 13 มกราคม ที่กองทัพภาค 1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้มีพระมหากรุณาธิคุณให้ ตนในฐานะนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และองคมนตรี เข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ โดยได้ถวายรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งพระองค์ทรงห่วงใยปัญหานี้เป็นหลัก โดยการจากนำเสนอด้วยพรีเซ็นเทชั่นของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการะทรวงมหาดไทย ในฐานะ ผอ.ศูนย์แก้ไขปัญหาส่วนกลาง ได้นำอธิบดี ปภ.และคณะ เข้าถวายรายงานตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน โดยพระองค์ท่านทรงรับสั่งด้วยความห่วงใยหลายเรื่อง โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชนให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ทั้งที่อยู่อาศัย การประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ชาวประมง ปศุสัตว์ ซึ่งคล้ายกับเหตุการณ์น้ำท่วมในปี 2554 ที่เราได้ประสบกันมา โดยพระองค์ท่านทรงรับสั่งให้ทำให้ดีที่สุด มีการบูรณาการ ลดความซ้ำซ้อน ดูแลให้ทั่วถึง ขณะเดียวกันให้ดำเนินการคู่ขนานกับการเตรียมแผนงานระยะยาวในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืนในภาคใต้ นอกจากนี้ พระองค์ท่านยังทรงรับสั่งถึงแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่รับสั่งไว้หลายประการ โดยขอให้นำมาทบทวนด้วย ซึ่งรายละเอียดต่างๆ รมว.มหาดไทยจะชี้แจงอีกครั้ง เพราะในวันเดียวกันนี้จะมีการประชุมศูนย์ส่วนกลาง ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามกระแสรับสั่งทั้งหมด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องสำคัญอีกเรื่องคือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณฯ ทรงพระราชทานลายพระหัตถ์ ถึงประชาชนทุกคน และตนขออนุญาตกล่าวให้ทุกคนทราบว่าพระองค์ทรงพระราชทานรายพระหัตถ์มาว่า ‘ด้วยความรักและห่วงใย ขอเป็นกำลังใจในการร่วมกันฟื้นฟูและพัฒนาเพื่อขวัญที่ดี จิตใจและร่างกายที่เข้มแข็งนำมาซึ่งความสุขและมั่นคงของชาติ’ และทรงลงพระปรมาภิไธยลงมา แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงห่วงใยทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการทุกภาคส่วนที่ลงไปช่วยกัน และพระราชทานกำลังใจให้ทุกคนด้วย ให้อดทนและเข้าใจ ว่าเราจะต้องอยู่กับน้ำอย่างไร ซึ่งตนตีความหมายได้ว่า เราจะต้องเรียนรู้เพราะสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง พระองค์ท่านทรงรับสั่งมา เพราะฉะนั้นเราจะต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้ในวันข้างหน้าอีก ดังนั้นเราจะต้องเตรียมการให้พร้อม
“ผมขอชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบว่าเราจำเป็นต้องดูแลระบบการระบายน้ำ ทั้งโครงการพระราชดำริต่างๆ ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการอยู่แล้ว ตามแนวทางที่มีอยู่ในหลายจังหวัดที่ยังไม่ได้ทำมาดู ซึ่งปัญหาสิ่งหนึ่งที่อาจเกี่ยวข้องกับประชาชนและสิ่งก่อสร้างต่างๆ กีดขวางทางน้ำทั้งหมด ทั้งถนน ที่พักอาศัย ซึ่งเราจะต้องดูให้รอบคอบว่าทำอย่างไรให้เดือดร้อนน้อยที่สุด เพื่อการระบายน้ำจะได้ลงสู่ทะเลอย่างมากที่สุด มิเช่นนั้นจะเกิดปัญหาอยู่อย่างนี้ แต่ทั้งหมดอยู่ในแผนบริหารจัดการน้ำอยู่แล้ว ซึ่งจะต้องปรับให้เร็วขึ้นในการทำงานจะต้องนำแนวทางพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาดำเนินการ”
นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้พระองค์ท่านทรงรับสั่งด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ท่านทรงพระราชทานแนวทางไว้หลายอย่าง ในช่วง 70 ปีครองราชย์ จึงอยากให้นำมาใช้และปฏิบัติ ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ท่านได้ศึกษาค้นคว้าและทดลองมาหมดแล้ว รัฐบาลนี้จะน้อมนำ รับใส่เกล้าใส่กระหม่อมในการดำเนินการต่อไป ให้เป็นไปตามกระแสรับสั่งที่รับสั่งลงมา อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกันนี้จะมีขบวนคาราวานช่วยเหลือน้ำท่วมโดยกรมอาชีวศึกษา ซึ่งตนจะบอกว่าทุกคนถือเป็นทูตปรองดองก็แล้วกัน ถือเป็นตัวอย่างการปรองดองที่ทุกคน ไปมาหาสู่ซึ่งกันและกัน ทุกคนมีน้ำใจเผื่อแผ่แบ่งปันซึ่งกันและกัน ทุกข์สุขไปด้วยกัน อย่างสถานการณ์ในปี 2554 ทรงพระราชทานไว้ว่า ถ้าทุกข์ก็ทุกข์ไปด้วยกัน สุขก็สุขไปด้วยกัน ในปี 2554 พระองค์ก็ทรงอดทนกับน้ำท่วมเหมือนกัน ทรงช่วยเหลือประชาชนและพระองค์ก็ไปไหมมาไหนไม่ได้เช่นกัน และทรงเล่าพระราชทานให้ฟังว่าลำบากไปด้วย ซึ่งวันนี้เราน่าจะแก้ปัญหาไปได้ด้วยความร่วมมือร่วมใจ ซึ่งทุกภาคส่วนและสถาบันพร้อมสนับสนุนรัฐบาลในทุกกรณี โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชน
“วันนี้ได้ทรงพระราชทาน ให้หน่วยบัญชาการถวายรักษาความปลอดภัย ได้ลงไปช่วยเหลือร่วมกับทหารของรัฐบาลด้วย ขณะเดียวกันการช่วยเหลือดูแลผู้บาดเจ็บและสูญเสีย พระองค์ท่านทรงรับสั่งว่า ถ้ามีอะไรที่จะทรงพระราชทานความช่วยเหลือได้ ก็จะช่วยควบคู่ไปกับการช่วยเหลือของรัฐบาล สรุปว่าจะเดินไปด้วยกันทั้งหมด ทั้งสถาบัน รัฐบาล และประชาชน ข้าราชการต้องเข้มแข็ง และประพฤติตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ก็ถือว่าเป็นสิริมงคลกับพวกเราทุกคน ข้าราชการเป็นกำลังใจ ซึ่งพระองค์ท่านทรงทราบดีว่าทุกคนเหน็ดเหนื่อย เสียสละ อดทนในการช่วยเหลือ ประชาชนก็เช่นกัน ต้องอดทนกับความยากลำบาก แต่ถ้าเราไม่แก้ไขอะไรเลย ยังทำลายป่า สร้างสิ่งกีดขวางทางน้ำ ไม่ทำตามกฎหมายผังเมือง ทำผิดกฎหมายการควบคุมอาคาร ก็จะกลายเป็นปัญหาของประเทศทั้งสิ้น ซึ่งผมจะสั่งการอีกทั้งในที่ประชุม ครม. ให้เกิดความร่วมมือและทำอย่างไรให้ประชาชนรู้ ว่าจุดใดคือทางน้ำไหลในทุกจังหวัดและพื้นที่ ถ้ากำหนดแล้วทุกคนต้องระวัง อย่าก่อสร้างอะไรผิดระเบียบ ผิดกฎหมาย ในเส้นทางนั้นๆ จะต้องทำให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ไม่เช่นนั้นทุกคนจะทำอะไรแบบตามใจฉัน จนแก้ไขไม่ได้ เพราะปล่อยให้เป็นปัญหายาวนาน เราจะปล่อยให้เกิดขึ้นอีกไม่ได้แล้ว ทั้งเรื่องการรักษาป่า ฟื้นฟู ทำระบบระบายน้ำ ซึ่งต้องใช้งบมหาศาล หลายเรื่องต้องเริ่มใหม่”
นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ พระองค์ทรงมีกระแสรับสั่งลงมาครอบคลุมในเรื่องของสถานการณ์บ้านเมือง อยากให้ทุกคนมีความรัก ความสามัคคีและอยู่ในความสงบ ทำให้บ้านเมืองมีความปลอดภัย ยั่งยืน เป็นที่เชื่อมั่นของนานาชาตินานาประเทศ ก็ขอให้ทุกคนมีความรัก ความสามัคคี ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการให้เรียบร้อย ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณฯ ทรงพระราชทานความห่วงใย ด้วยจากพระทัยของพระองค์เอง