สำนักข่าวเอเอฟพีและเอพีรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียพากันขึ้นเมื่อวันที่ 10 เมษายนหลังจากที่นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ผ่อนคลายความกังวลในเรื่องความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐอเมริกาที่กำลังคุกรุ่นโดยให้สัญญาถึงมาตรการใหม่ที่จะเปิดเศรษฐกิจของประเทศที่มีขนาดใหญ่โตให้ “กว้างขึ้นและกว้างขึ้น”

ในคำกล่าวปาฐกถาที่ได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิดบนเวทีการประชุมทางเศรษฐกิจป๋ออา๋ว บนเกาะไหหนาน ทางตอนใต้ของประเทศ ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ดาวอสของเอเชีย” นายสีให้สัญญาถึง “ก้าวใหม่ของการเปิดกว้าง” โดยเสริมว่ารัฐบาลปักกิ่ง “ไม่ได้ต้องการเสาะหาการได้ดุลการค้า” และต้องการที่จะส่งเสริมการนำเข้า

นายสีกล่าวว่า จีนจะมีมาตรการเปิดเสรีการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ ลดกำแพงภาษีรถยนต์ลงในปีนี้และปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาอันเป็นทุกแง่มุมที่อยู่เป็นลำดับต้นๆ ในบัญชีที่รัฐบาลสหรัฐต้องการให้จีนทำ
“การโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจเป็นครรลองของช่วงเวลาที่ไม่สามารถย้อนกลับได้” นายสีกล่าวต่อที่ประชุมและว่า “ประตูของจีนจะเปิดและจะไม่ปิด โดยจะมีแต่เปิดกว้างขึ้นและกว้างขึ้น”

ข่าวระบุว่า หลังจากเริ่มต้นวันอย่างระมัดระวัง นักลงทุนยึดถือเอาคำกล่าวแสดงความคิดเห็นของนายสีเป็นสัญญาณว่าสงครามการค้าที่เป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกอาจหลีกเลี่ยงได้

ตลาดหุ้นผันผวนหนักในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาจากการที่ทำเนียบขาวประกาศกำแพงภาษีเป็นระยะ ส่วนใหญ่ต่อสินค้าจีน และเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายกีดกันทางการค้า “อเมริกาเฟิร์สต์” หรืออเมริกาต้องมาก่อนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ จุดชนวนให้เกิดความกลัวว่าจะมีมาตรการตาต่อตา ฟันต่อฟันที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายซึ่งทำลายเศรษฐกิจโลกตามมา

การได้ดุลการค้ามหาศาลของจีนต่อสหรัฐเป็นคำตำหนิสำคัญของนายทรัมป์ที่กล่าวหาจีนว่ามีวิธีปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งสร้างความเจ็บปวดให้การจ้างงานของอเมริกัน มาตรการล่าสุดของเขาที่ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 6 เมษายนทุบตลาดหุ้นอเมริกันอีก แต่ความหวังว่าปัญหาดังกล่าวสามารถแก้ไขได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียปิดในแดนบวกในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์

“ปาฐกถาของนายสีส่งสัญญาณบวกให้กับตลาดหุ้นจากการที่เขาสนับสนุนโลกาภิวัตน์และตลาดของจีนให้เปิดกว้าง” นายลีนุส ยิป นักยุทธศาสตร์แห่งบริษัทหลักทรัพย์เฟิร์สต์ ชางไฮ ซีเคียวริตีส์ เปิดเผยกับบลูมเบิร์ก และว่า “นักลงทุนเป็นกังวลกับข้อขัดแย้งทางการค้าในขณะที่คำกล่าวของเขาช่วยสงบความวิตกกังวลได้มาก แต่ปัญหาของความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อขัดแย้งทางการค้าในระยะสั้นยังคงอยู่จากการที่ภาพที่นายสีฉายให้เห็นเป็นภาพในระยะยาว

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตของจีนปิดเพิ่มขึ้น 1.7 เปอร์เซ็นต์ ดัชนีนิกเคอิของญี่ปุ่นปิดเพิ่มขึ้น 0.5 เปอร์เซ็นต์ ดัชนีหั่งเส็งของฮ่องกงดีดตัวขึ้น 1.9 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ตลาดหุ้นซิดนีย์ของออสเตรเลียที่หลายบริษัทซึ่งขึ้นทะเบียนอยู่พึ่งพาการค้ากับจีนเป็นอย่างมากปิดเพิ่มขึ้น 0.8 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสิงคโปร์เพิ่ม 0.6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ตลาดหุ้นกรุงโซลของเกาหลีใต้ขยับขึ้น 0.3 เปอร์เซ็นต์

ขณะที่ป๋ออ๋าวได้เลือกนายบัน คี มุน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เป็นประธานบอร์ดคนใหม่ต่อจากอดีตนายกยาสุโอะ ฟูกูดะของญี่ปุ่นที่ครบ 2 วาระแล้ว

กรรมการใหม่มีอดีตนายกโรมาโน โพรดีจากอิตาลี, อดีตประธานาธิบดีกลอเรีย อาโรโย จากฟิลิปินส์, อดีต รองนายก หว่อง กัน เส็งจากสิงคโปร์, ประธานบริษัทซัมซุงจากเกาหลีใต้, ประธานบริษัทฮิตาชิจากญี่ปุ่น,นายคาร์ลอส กูเตร์เรส อดีตรมว. พานิชย์จากสหรัฐอเมริกาเป็นอาทิ