จนท.พิสูจน์หลักฐานเผยผลตรวจซากสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ พบ ‘รูกระสุน’ เพียบ

https://www.matichon.co.th/news/

ความคืบหน้าคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน ถูกจับกุมพร้อมอาวุธและของกลางฐานเข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ซึ่งต่อมานายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดเฉพาะกิจพญาเสือ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่เกิดเหตุบริเวณริมห้วยประชิ หมู่ที่ 4 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เพื่อตรวจเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุเพิ่มเติม รวม 21 จุด เพื่อตรวจเก็บหลักฐานต่างๆ อย่างละเอียด ตั้งแต่จุดตั้งเต็นท์ จุดพบอาวุธปืน และจุดที่พบซากสัตว์ต่างๆ พร้อมยืนยันว่า นายเปรมชัย ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่ ส่วนปืนไรเฟิล พบว่าเป็นของนายเปรมชัย แต่ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ว่าใช้กระบอกไหนยิงนั้น

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ ผกก.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ในด้านคดีทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งการเน้นย้ำให้ทำคดีตามพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงมาและเป็นธรรม ขณะนี้ต้องรอผลการตรวจเก็บรายละเอียดต่างๆ จากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานให้ครบถ้วนทุกขั้นตอน ซึ่งเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปเก็บหาหลักฐานต่างๆ พยานวัตถุที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ดีเอ็นเอ รอยนิ้วมือ กระสุนและปลอกกระสุนปืน และอาวุธปืนที่อาจจะแอบซุกซ้อนไว้โดยรอบบริเวณที่เกิดเหตุอีก รวมทั้งสถานที่ที่ตั้งแคมป์เพื่อตรวจหาร่องรอยต่างๆ ที่สามารถนำมายืนยันการกระทำความผิดในคดีได้ เชื่อว่าคดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่จะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์เป็นสำคัญเพื่อนำมาประกอบสำนวนในคดี

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภาค 7 เบื้องต้นพบร่องรอยกระสุนปืนที่ซากไก่ฟ้าบริเวณลำตัว ส่วนซากเสือดำนั้น พบรูกระสุนที่บริเวณด้านหลังทะลุลำคอ และซากอื่นอีกส่วนหนึ่งไม่พบรอยกระสุน เพราะถูกชำแหละแล้ว ส่วนชนิดของกระสุนปืนที่ไก่ฟ้านั้น เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นชนิดลูกปราย ส่วนรูกระสุนที่พบในเสือดำยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้ และเพื่อความชัดเจนจะต้องส่งให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืนตรวจวิเคราะห์อีกครั้งหนึ่ง