http://www.bangkokbiznews.com/news
ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (บก.ตชด.ภ.1) – พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางมาเข้าร่วมประชุมประเมินสถานการณ์และปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย โดยกล่าวก่อนเข้าร่วมประชุม ว่า ตำรวจมีความพร้อมที่จะสนับสนุนการปฏิบัติการตรวจค้นของดีเอสไอ ส่วนกรณีพระธัมมชโยถูกถอดสมณศักดิ์นั้น เป็นขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่ต้องทยอยดำเนินการและเชื่อว่าจะทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ง่ายขึ้น ส่วนประเด็นที่มีการเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้กฎหมายมาตรา 44 นั้น ตนมองว่ามาตรา 44 เป็นตัวช่วยที่ดี ซึ่งในทุกคดีทุกเรื่องที่ผ่านมา รัฐบาลใช้มาตรา 44 แก้ปัญหา อีกทั้ง เชื่อว่ามาตรา 44 จะต้องถูกนำมาใช้อีกมากในการบริหารงานของรัฐบาล
“พวกที่เรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 44 เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย ต้องกลับไปทบทวน กลับไปคิด และไตร่ตรองดูว่ารัฐบาลเขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง และไม่ใช่ทำในสิ่งที่ผิด มาตรา 44 สามารถแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วและดีขึ้นด้วย”ผบ.ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นักสิทธิมนุษยชนมองว่ารัฐบาลใช้กฎหมายเกินขอบเขต พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า พวกเขามีความคิดอย่างไร มีความคิดเหมือนพวกเราหรือไม่ ถ้ามีความคิดเหมือนพวกเราก็ดี คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนก็ดี เอ็นจีโอก็ดี บางครั้งบางเรื่องต้องมีความเป็นกลางบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังเชื่อหรือไม่ว่าพระธัมมชโยยังอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย ผบ.ตร. กล่าวว่า จะอยู่หรือไม่ ไม่รู้ แต่เรื่องพวกนี้มันควรจะจบได้แล้ว ตนไม่ได้อยากมีปัญหากับพวกศิษยานุศิษย์และสาวกของวัดพระธรรมกาย แต่อยากให้ดูว่าอะไรผิดอะไรถูก สรุปว่างานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา ไม่มีงานเลี้ยงใดที่มีวันเลิกลา
ส่วนที่ดีเอสไอตรวจพบพระสงฆ์มีเงินในบัญชีมากกว่า 13 ล้านบาท ทางตร.จะเข้าไปร่วมตรวจสอบด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า เขาดูหมดทุกมิติอยู่แล้ว พระสงฆ์อะไรจะมีเงินเยอะขนาดนั้น ในอดีตหลวงปู่สดก็ไม่ได้สอนวิถีชีวิตอย่างนี้ ต้องไปถามพระสงฆ์ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับพระธัมมชโย หรือก่อนหน้านั้นสัก 10 ปี ว่าแนวคิดเป็นอย่างไร ตนก็ไม่ได้เก่งเรื่องพระ เรื่องเจ้า แต่ต้องไปถามพวกพระสงฆ์ที่รุ่นราวคราวเดียวกันกับพระธัมมชโย หรืออายุมากกว่า ตนเชื่อว่าไม่มีใครรู้ดีกว่าในคณะสงฆ์ด้วยกัน