กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ 2 คนคือนายคิม จอง ซิค และนายรี พยอง โช ซึ่งสหรัฐระบุว่าเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในโครงการพัฒนาขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

ภายใต้การประกาศคว่ำบาตรของสหรัฐดังกล่าว สหรัฐจะสกัดกั้นการทำธุรกรรมทางการเงินของบุคคลทั้งสองภายในประเทศ รวมถึงจะยึดทรัพย์สินใดๆ ก็ตามที่บุคคลเหล่านี้มีอยู่ในสหรัฐด้วย ทั้งนี้บุคคลทั้งคู่มักปรากฏตัวอยู่ในภาพถ่ายเคียงคู่กับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือในระหว่างการทดสอบขีปนาวุธแทบทุกครั้ง

กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่าได้พุ่งเป้าไปยังโครงการพัฒนาขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการกดดันเกาหลีเหนือขั้นสูงสุด โดยมีเป้าหมายที่จะโดดเดี่ยวเกาหลีเหนือ ขณะที่เป้าหมายสูงสุดคือการทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดอาวุธนิวเคลียร์

การประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือของสหรัฐครั้งล่าสุดนี้ มีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ผ่านร่างข้อมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่เพื่อตอบโต้การทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือซึ่งเกาหลีเหนือชี้ว่าการคว่ำบาตรดังกล่าวถือเป็นการทำสงคราม และเป็นการปิดกั้นเกาหลีเหนือทางเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบ

ด้านรัสเซียซึ่งเรียกร้องให้สหรัฐและเกาหลีเหนือหันกลับสู่โต๊ะเจรจาระบุว่า พร้อมที่จะทำหน้าที่คนกลางในการไกล่เกลี่ย หากสหรัฐและเกาหลีเหนือต้องการให้รัสเซียทำหน้าที่ดังกล่าว

อย่างไรก็ดีโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกมาปฏิเสธข้อเสนอของรัสเซียทันที โดยระบุว่าสหรัฐมีศักยภาพที่จะติดต่อกับเกาหลีเหนือผ่านช่องทางทางการทูตที่หลากหลาย และสหรัฐต้องการให้เกาหลีเหนือเข้าใจว่าสามารถเลือกทางที่แตกต่างได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเกาหลีเหนือเองที่จะเปลี่ยนวิธีและหันกลับสู่โต๊ะการเจรจา

ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียได้โทรศัพท์พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐว่าการใช้ถ้อยคำก้าวร้าวและการปรากฏตัวของกองกำลังสหรัฐในภูมิภาคจะยิ่งทำให้ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นซึ่งเป็นสิ่งที่รับไม่ได้