จีนรุก! ยื่นทวงถามรมช.คมนาคม ข้อเสนอขายเมล์เอ็นจีวีมูลค่า 3,440 ล้าน

https://www.matichon.co.th/news/

“รัฐวิสาหกิจจีน” ยื่นหนังสือ “รมช.คมนาคม” ทวงถามข้อเสนอขายรถเมล์เอ็นจีวี วงเงิน 3,440 ล้านบ. ดีใจ “บิ๊กตู่” ให้ความสนใจ ยันเป็นตัวแทนรัฐบาลจีน 100% การันตีรถคุณภาพสูง เผย หวังเข้ามาตั้งโรงงานในไทยด้วย

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ที่กระทรวงคมนาคม นายเกา เค่อจูง รองประธาน และผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท กุ้ยโจว กุ้ยหาง หยุนหม่า ออโตโมบิล อินดัสตรี จำกัด (Guizhou Guihang Yunma Automobile Industry Co.,Ltd.) ได้เข้ายื่นหนังสือถึง นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคมนาคม เพื่อติดตามข้อเสนอในการดำเนินโครงการรถโดยสารประจำทางใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (รถเมล์ NGV) ที่เคยเสนอมาถึงรัฐบาลไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา

โดย นายเกา เค่อจูง ให้สัมภาษณ์ภายหลังยื่นหนังสือว่า บริษัทกุ้ยโจวฯ มีความยินดีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย แสดงความสนใจในข้อเสนอของบริษัทฯ แต่อาจจะคลาดเคลื่อนข้อมูลที่ว่าบริษัทกุ้ยโจวฯเป็นรัฐวิสาหกิจจีนในระดับมณฑล โดยเราขอยืนยันว่า บริษัทกุ้ยโจวฯเป็นบริษัทลูกในเครือ เอวีไอซี ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลจีน ที่รัฐบาลกลางถือหุ้น 100 เปอร์เซ็นต์ โดยบริษัทกุ้ยโจวฯ ประกอบกิจการโรงงานประกอบรถยนต์ ทั้งรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงก๊าชธรรมชาติเอ็นจีวี และรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ในนามตราสินค้า หยุ่นหม่า นอกเหนือจากการเป็นผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทาง และซ่อมบำรุงในมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีนแล้ว ยังเป็นตัวแทนของรัฐบาลจีนในการผลิตรถให้กับลูกค้าทั้งในจีน และทั่วโลก นับหมื่นคัน เมื่อทราบว่ารัฐบาลไทยกำลังดำเนินการโครงการจัดหารถเมล์เอ็นจีวี จึงได้เข้ามาเสนอการมีส่วนร่วม เพื่อเป็นไปตามนโยบาย One Belt One Road ของประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ที่ให้มีการส่งเสริมเชื่อมสัมพันธ์และการค้าระหว่างประเทศ ผ่านโครงการขนส่งคมนาคม และการขนส่งสาธารณะ

นายเกา เค่อจู ยังกล่าวถึงข้อเสนอขายรถเมล์เอ็นจีวีในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จำนวน 489 คัน ในวงเงิน 3,440 ล้านบาท รวมทั้งการแถมรถเมล์เอ็นจีวีอีก 489 คันด้วยว่า สาเหตุที่บริษัทกุ้ยโจวฯเสนอขายรถในราคาที่ต่ำกว่าราคากลางของทาง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รวมทั้งมีโปรโมชั่น 1 แถม 1 ด้วยนั้น ไม่ได้หมายความว่า รถของเราคุณภาพต่ำ เนื่องจากบริษัทกุ้ยโจวฯใช้ชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่มีคุณภาพจากประเทศชั้นนำ โดยเฉพาะในส่วนของเครื่องยนต์ และชุดเกียร์ ที่นำเข้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้รถมีอายุการใช้งานถึง 20 ปี แต่ที่เสนอแถมรถชุดหลังอีก 489 คัน หลังจากครบสัญญา 5 ปีนั้น ก็มีวัตถุประสงค์ในการมาตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทย และใช้โรงงานดังกล่าวในการผลิตรถชุดหลังนี้ เพื่อหวังให้เกิดการจ้างงาน รวมทั้งง่ายต่อการถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยี ให้กับบุคลากรชาวไทย

เมื่อถามถึงสาเหตุที่ไม่เข้ามาร่วมประมูลกับ ขสมก.ตั้งแต่ต้น นายเกา เค่อจูง กล่าวว่า เนื่องจากในข้อกำหนด หรือทีโออาร์ของ ขสมก.ได้กำหนดให้ ผู้เข้าร่วมประมูลต้องเป็นบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) กับบริษัทสัญชาติไทยเท่านั้น ซึ่งบริษัทกุ้ยโจวฯเป็นรัฐวิสาหกิจเต็มรูปแบบ จึงไม่สามารถที่จะร่วมทุนกับบริษัทเอกชนได้ อีกทั้งเราก็ได้ยื่นข้อเสนอมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ผ่านทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รวมทั้ง ผู้อำนวยการ ขสมก. แต่ก็ไม่มีการแจ้งตอบรับหรือปฏิเสธอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ทราบว่าการประมูลรถเมล์เอ็นจีวี เฟสแรกจำนวน 489 คันของ ขสมก.ได้ผู้ชนะประมูลไปแล้ว แต่หากติดขัดปัญหาทำให้ต้องยกเลิกการประมูลอีก บริษัทกุ้ยโจวฯก็พร้อมที่จะเข้ามาสานต่อทันที ด้วยศักยภาพการผลิตรถโดยสารในลักษณะที่รัฐบาลไทยต้องการของบริษัทกุ้ยโจวฯอยู่ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 500 คัน หรือเฉลี่ยปีละ 6,000 คัน จึงเชื่อว่าไม่มีปัญหาในการส่งมอบตามกรอบเวลาที่ ขสมก.กำหนดอย่างแน่นอน ตลอดจนโครงการจัดหารถเมล์เอ็นจีวี หรือรถเมล์พลังงานไฟฟ้า ในเฟสต่อๆไปของรัฐบาลไทย เราก็มีความยินดีที่จะเข้ามามีส่วนร่วม