นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ทียู เปิดเผยในโอกาสจัดงานครบ 40 ปีของบริษัท ณ รอนัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารา ว่า ภาพรวมรายได้ของบริษัทในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-กันยายน) ถือว่าทรงตัว โดยสามารถขยายตัวได้เพียง 2 เท่านั้น จากปัจจัยภายนอกประเทศที่ยังคงผันผวน ทั้งปัญหาค่าเงินในสหภาพยุโรป (อียู) การถอนตัวของสหราชอาณาจักรออกจากอียู ความวุ่นวายในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง รวมทั้งค่าเงินบาทที่ยังแข็งตัวต่อเนื่อง

“เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มรายได้รวมจาก 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปัจจุบันเป็น 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐได้ตามเป้าหมายในปี 2563 โดยในแต่ละปีได้ทุ่มงบลงทุนในการปรับปรุงกระบวนการผลิตเฉลี่ย 3,500–4,500 ล้านบาท และตลอดทั้งปีนี้บริษัทได้มีแผนในการเจาะตลาดเกิดใหม่ (อิมเมอร์จิ้นมาร์เก็ต) มากขึ้น ซึ่งได้เน้นเจาะตลาดที่ประเทศมาเลเซีย กลุ่มประเทศในอาเซียน รวมถึงประเทศจีน โดยร่วมมือกับอาลีบาบาในการขายสินค้าอาหารทะเลผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งคาดว่า ในปี 2563 จะสร้างรายได้ที่ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ”นายธีรงพงศ์กล่าว

นายธีรพงศ์ กล่าวว่า นอกจากนี้บริษัทได้ทุ่มงบลงทุนในการวิจัยและพัฒนาต่อยอดสินค้า และไบโพดักส์ ให้สามารถมูลค่าเพิ่มขึ้น โดยในปีหน้าจะมีการเปิดตัวน้ำมันจากปลาทูน่า ที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง และในปีหน้าจะเน้นวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มาจากกุ้ง และพัฒนาอาหารสัตว์ โดยเฉพาะอาหารแมวมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะ สามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563 รวมทั้งบริษัทยังได้เน้นขายสินค้าผ่านร้านอาหาร และภัตตาคาร (ฟู้ดเซอร์วิส) มากขึ้น โดยตั้งเป้ามีรายได้ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563