เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2560 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 พล.ต.พัลลภ เฟื่องฟู ผู้บัญชาการกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ร่วมประชุมประเมินสถานการณ์และปรับแผนการตรวจค้นวัดพระธรรมกายและบริเวณพื้นที่ควบคุมตามคำสั่ง หน.คสช.ที่ 5/2560 โดยมีเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และสำนักพระพุทธศาสนา ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

หลังจากได้ร่วมกันแถลงข่าว พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวว่า ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีการสนธิกำลังกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อดำเนินการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย มูลนิธิธรรมกาย และพื้นที่โดยรอบเพื่อติดตามจับกุมพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 3 วันนั้น

แม้ในทางปฏิบัติจะสามารถตรวจค้นเพื่อพิสูจน์ทราบอาคารสถานที่ได้ แต่ยังคงมีบุคคลภายนอกเข้ามาปะปนในบริเวณวัด มีการทำกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้โดยสะดวก เนื่องจากประชาชนที่อยู่ในบริเวณที่ตรวจค้นรอฟังคำสั่งการปฏิบัติจากพระภิกษุเป็นหลัก รวมถึงมีการสร้างกระแสข่าวจากเจ้าหน้าที่ที่ปิดกั้นไม่ให้บุคคลภายในวัดออกนอกพื้นที่วัดและมูลนิธิธรรมกาย โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของเจ้าหน้าที่ และหากออกไปอาจถูกตรวจสอบและถูกดำเนินคดีทำให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวไม่กล้าออกไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา

จากพฤติกรรมดังกล่าวจึงทำให้การดำเนินการตรวจค้นไม่สามารถปฏิบัติได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทั้งที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษในฐานะผู้รับผิดชอบการปฏิบัติการตามคำสั่ง คสช. ที่ 5/2560 ได้ออกคำสั่งที่ 1/2560 เรื่องการปฏิบัติการในเขตพื้นที่ควบคุมตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 ไว้แล้ว

ดังนั้นเพื่อให้การปฏิบัติการหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นบริเวณพื้นที่ควบคุมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถคืนพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วจึงได้แถลงการณ์ดังต่อไปนี้

1.ให้พระภิกษุสามเณรและประชาชนที่มิได้มีที่อยู่ในพื้นที่วัดพระธรรมกาย มูลนิธิธรรมกาย ออกจากพื้นที่ภายในบริเวณ 15.00 น. ของวันนี้ โดยสามารถออกได้ทุกประตูทางออก โดยจะมีการจัดเจ้าหน้าที่และยานพาหนะอำนวยความสะดวกในการเดินทางออกนอกพื้นที่

2.ภายหลังระยะเวลาตามข้อ 1. ให้พระภิกษุสามเณรและประชาชนซึ่งมีที่อยู่ในบริเวณที่ดังกล่าวมารายงานตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เต็นท์ที่พักบริเวณประตู 6 โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจะเข้าตรวจสอบหนังสือสำคัญของพระภิกษุหรือใบสุทธิ และพนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบบัตรประชาชนและดำเนินการลงทะเบียน

ทั้งนี้พนักงานเจ้าหน้าที่จะกวดขันการปฏิบัติตามคำสั่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ 1/2560 เรื่องการปฏิบัติการเขตพื้นที่ควบคุมตั้งแต่วันนี้ เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป โดยผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดตามคำสั่ง คสช. ระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้เจ้าที่ยังได้นำเฮลิคอปเตอร์บินขึ้นวนรอบบริเวณวัดพระธรรมกาย เพื่อดูอาณาเขตของวัดพระธรรมกายรวมถึงสภาพอาคารต่างๆ เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำโดรนถ่ายภาพทางอากาศ บินเพื่อถ่ายภาพมุมสูงแต่เครื่องโดรนตก คาดว่าอาจโดนตัดสัญญาณ

ขณะที่มีรายงานว่าเมื่อเวลา 11.30 น. วันเดียวกัน ที่บริเวณหน้าปากทางคลองแอล 2-3 ถนนบางขันธ์-หนองเสือ ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นทางเข้าไปประตูที่ 5 และประตูที่ 6 วัดพระธรรมกาย ได้มีศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายจำนวนหนึ่งมานั่งสวดมนต์บริเวณหน้าปากทางเข้า เนื่องจากรับทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการเข้าเคลียร์พื้นที่ภายในวัดพระธรรมกาย โดยจะให้ทางพระภิกษุ สามเณรและเจ้าหน้าที่ของวัดออกจากพื้นที่ในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจำนวนสามกองร้อยคอยดูแลพื้นที่อย่างเข้มงวด ทั้งปากทางถนนบางขันธ์-หนองเสือ และถนนเลียบคลองแอลระหว่าง 2-3