สรรพากรคาดช้อปช่วยชาติ 23 วันเงินสะพัด 2.2 หมื่นล.-ย้ำต้องใช้ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ

https://www.matichon.co.th/news/

นางแพตริเซีย มงคลวนิช โฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า มาตรการช้อปช่วยชาติคาดว่าปีนี้มีการจับจ่ายเพื่อใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีช่วง 23 วันกว่า 22,500 ล้านบาท คาดว่าทำให้กรมสูญเสียรายได้จากการคืนภาษี 2,000 ล้านบาท สูงกว่าปี 2559 ที่มีการใช้สิทธิ์ประมาณ 15,000 ล้านบาท ทำให้สูญรายได้ประมาณ 1,800 ล้านบาท

“สินค้าและบริการที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ต้องเป็นสินค้าที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต) และต้องมีการใช้บริการในช่วงวันที่ 11 พฤศจิกายน -3 ธันวาคม 2560 เช่น ฟิตเนสจ่ายเงินไปแล้วใช้เป็นรายปีไม่สามารถเข้าร่วมได้ ส่วนตั๋วเครื่องบิน ถ้าสายการบินใดจดทะเบียนแวต ผู้โดยสารซื้อตั๋ว และบินในประเทศภายในช่วงเวลากำหนดสามารถใช้ได้ แต่ตั๋วเครื่องบินส่วนใหญ่ได้รับการยกเว้นแวต โดยมีบางสายการบินที่จดทะเบียนแวต”นางแพตริเซีย

ทั้งนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2560) ดังนี้ 1. กำหนดให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าใช้จ่ายเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ในระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายน 2560 ถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2560 มาหักลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท

2. ผู้มีเงินได้ต้องซื้อสินค้าหรือรับบริการและชำระราคาค่าสินค้าหรือค่าบริการในช่วงเวลาดังกล่าว และต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าหรือรับบริการเป็นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร 3. การซื้อสินค้าหรือรับบริการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องเป็นการซื้อสินค้าเพื่อใช้ในประเทศหรือบริการเพื่อใช้ในประเทศเท่านั้น และต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 7% แต่สินค้านั้นไม่รวมถึงการซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ น้ำมัน ก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ และการบริการนั้นไม่รวมถึงการจ่ายค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ การจ่ายค่าที่พักในโรงแรมให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าว จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการบริโภคภายในประเทศในช่วงปลายปี 2560 ซึ่งจะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น อันจะส่งผลดีต่อการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจโดยรวม และเป็นการช่วยบรรเทาภาระภาษีของประชาชน อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะขยายฐานภาษีและส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ภาษีของรัฐในระยะยาว