http://www.matichon.co.th/news
ภายหลังจากทางรัฐบาลมีคำสั่งใช้ มาตรา 44 ให้พื้นที่บริเวณวัดพระธรรมกาย ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นเขตพื้นที่ควบคุมพิเศษ ป้องกันไม่ให้มีบุคคลเข้าไปในพื้นที่ และผลักดันผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ในวัดออกนอกพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เข้าไปตรวจค้น พร้อมทั้งควบคุมตัวพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา คดีพิเศษเลขที่27/2559 ในข้อหาสบคบและร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร
เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 16 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศบริเวณโดยรอบวัดพระธรรมกายเป็นไปอย่างคึกคัก มีสื่อมวลชนมาปักหลักรอทำข่าวกันอย่างเนืองแน่น ซึ่งบริเวณโดยรอบนั้น กำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารราบที่2 รักษาพระองค์ ได้ตั้งจุดตรวจสกัดเส้นทางเข้าออกวัดพระธรรมกาย ตรวจค้นรถทุกคันเพื่อเป็นการเฝ้าระวังและป้องกันผู้ที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ความรุนแรง นอกจากนี้ยังเป็นการสกัดกั้นไม่ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องที่จะเข้าไปยังวัดพระธรรมกายอีกด้วย
เวลา 03.30 น. กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เริ่มทยอยเดินทางมายังสภ.คลองหลวง โดยมีกำลังจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนและหน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด นอกจากนี้ยังมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกส่วนหนึ่ง เตรียมพร้อมอยู่ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค1
เวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7 เดินทางเตรียมความพร้อมบริเวณด้านหน้าลานเสาธงที่ว่าการอำเภอคลองหลวง รวมกำลังทั้งสิ้นกว่า 1,500 นาย สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปยังคงสงบเรียบร้อย
กระทั่งเวลา 05.45 น.กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนได้เคลื่อนไปยังบริเวณประตู5 และประตู6 ของวัดพระธรรมกาย พร้อมทั้งนำป้ายประกาศ ข้อกฎหมายและฐานความผิดมาตั้งเพื่อให้ประชาชนที่ผู้ภายในได้รับทราบ ด้านลูกศิษย์วัดพระธรรมกายซึ่งแต่งกายใช้ผ้าคลุมปิดบังใบหน้า สวมหมวกอำพราง ได้ออกมาสังเกตการณ์พร้อมทั้งถ่ายรูปการทำงานของทางเจ้าหน้าที่
เวลา 06.30 น.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าแถวตรึงกำลังบริเวณด้านหน้าประตู5 และประตู6 พร้อมทั้งกันพื้นที่ทั้งหมดเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ ห้ามมิให้บุคคลเข้าพื้นที่แต่อย่างใด สามารถออกได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งทำให้ศิษยานุศิษย์ไม่พอใจ เพราะต้องการจะเข้าไปปฏิบัติธรรมภายในวัด ด้านวัดพระธรรมกายได้ทำการสวดมนต์ บรรยากาศยังคงสงบเรียบร้อย
เวลา 07.00 น. พระสงฆ์ที่ออกไปรับบิณฑบาตภายนอกวัดพระธรรมกายได้กลับมายังบริเวณวัด แต่ทางเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนพิเศษได้แจ้งว่าไม่สามารถเข้าไปภายในบริเวณวัดได้ เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ ทำให้ลูกศิษย์วัดไม่พอใจ และมีการโต้เถียงกัน แต่ไม่มีความรุนแรงแต่อย่างใด ด้านวัดพระธรรมกายได้มีการประกาศเสียงตามสายถึงสิทธิเสรีภาพด้านต่างๆ การเข้ามาปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิเป็นสิทธิที่ทุกคนพึงกระทำได้ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจำกัดสิทธิประชาชนได้
เวลา 07.30 น. พ.ต.ท.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจำนวนหลายกองร้อย เดินทางมายัง ที่หน้าประตูที่ 7 ฝั่งถนนบางขันธ์-หนองเสือ ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อขอเจรจากับทางวัดพระธรรมกาย เพื่อขอเข้าตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกาย โดยมี พระสนิทวงศ์ วุฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย เดินทางมาเจรจากับเจ้าหน้าที่โดยได้เชิญทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้าไปเจรจาภายในวัดโดยไม่ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนแต่อย่างใด
จากนั้นก็ได้มีการเคลื่อนกำลังพล เจ้าหน้าที่ในชุดเครื่องแบบดีเอสไอ ชาย จำนวน 300 นายตั้งแถวเรียงหน้ากระดาน รอรับคำสั่งผู้บังคับบัญชา ขณะรอการเจรจ ของพระสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ดีเอสไออยู่บริเวณนอกประตู นอกจากนี้ยังมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารตั้งแถวอยู่บริเวณชั้นนอก และมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ด้านลานจอดรถบริเวณสนามฟุตบอลโรงเรียนคลองสอง ได้ทยอยขึ้นรถตู้โดยสารกว่า30 คันมุ่งหน้าไปตามประตูทางเข้ารอบๆวัดพระธรรมกาย ที่มีอยู่ 18 ประตู